Suzuki Beef BKK ร้านวากิวที่เป็นสุดยอดของความอูมามิ
กรุงเทพฯ เมืองธุรกิจชั้นนำของเอเชียเคียงคู่โตเกียว เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เมืองที่สามารถพบกับของอร่อยได้เสมอไม่ว่าจะที่ไหนหรือเมื่อไร เมืองที่มีสตรีทฟู้ดและร้านที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินมากมาย ต่อให้ตามหาไปทั่วโลก แต่มีเพียงที่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่จะมีรสชาติเช่นนี้ และยิ่งก้าวเดินไปข้างหน้ามากเท่าไร กลิ่นหอมของอาหารก็ยิ่งโชยเข้าจมูกมากขึ้นเท่านั้น
ชาวกรุงเทพฯ ผู้มีใจรักในอาหารกับท้องของพวกเขาที่กำลังส่งเสียงร้องอยู่เบื้องหน้าเหล่าเชฟทั้งหลาย ทำให้การต่อสู้เพื่อเกียรติยศของร้านอาหารแผ่ขยายไปทั่ว ท่าทางของเชฟแต่ละคนที่กำลังเผชิญหน้ากับวัตถุดิบตรงหน้า และพยายามปรุงแต่งรสชาติแต่ละเมนูให้อร่อยนั้น ให้ความรู้สึกราวกับนักรบที่กำลังลงต่อสู้ในสงครามอย่างไม่กลัวเกรง
แต่เพราะไวรัสโคโรน่าทำให้ความคิดที่สื่อถึงกันระหว่างร้านค้าและลูกค้านั้นเป็นไปได้ยาก “อยากให้กินที่ร้าน แต่ไม่อาจเป็นไปได้” “อยากกินที่ร้าน แต่ว่าทำไม่ได้”
คนสองคน (?) จากอวกาศเดินทางมายังโลก โดยไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ ณ ปัจจบุัน นอกจากชื่อของพวกเขาแล้ว ก็แทบไม่มีใครรู้ข้อมูลอะไรอีกเลย พวกเขาเป็นคนหรือสัตว์ประหลาดกันแน่ เราจะพูดคุยกันรู้เรื่องไหม แล้วพวกเขามาที่ไทยเพื่อสิ่งใดกัน และพวกเขามุ่งหวังอะไร… มีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด
“อาจิมิ” (アジミ) นักวิจัยอาหารภาคพื้นโลก และ “อาโรอิ” (アロイ) ที่มีความสามารถในการรับกลิ่นได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร เมื่อสิ่งที่เชื่อได้มีเพียงการรับกลิ่นเท่านั้น
ทั้งสองจะพากันออกเดินทางไปยังร้านอาหารต่าง ๆ ใจกลางกรุงเทพฯ โดยเริ่มต้นจากร้านอาหารญี่ปุ่น และนี่คือซีรีส์การ์ตูนเกี่ยวกับการต่อสู้ของร้านอาหารญี่ปุ่นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่พาเราไปที่ “Terra” ร้านอิซากายะที่เต็มไปด้วยความคิดถึงจังหวัดฟุกุโอกะจากเจ้าของร้าน ส่วนคราวนี้ทั้งคู่จะพาเราไปสำรวจความอร่อยกับร้าน “Suzuki Beef BKK” ที่เกิดจากการที่เจ้าของร้านติดใจในความอร่อยและเสน่ห์ของ “วากิวไคเซกิ”
สุดยอดแห่งเนื้อและหอยนางรมในเมนู “Hokkaido Oyster with Omi Wagyu Beef Tartare” ที่ Suzuki Beef BKK
เมนู “Hokkaido Oyster with Omi Wagyu Beef Tartare” (ราคาคำละ 480 บาท) นั้นรังสรรขึ้นมาจากเนื้อโอมิสดใหม่ที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ปรุงรสในสไตล์ฝรั่งเศส เมื่อลองชิมจะสัมผัสได้ถึงความหวานฉ่ำของเนื้อและความล้ำลึกของรสชาติที่รับรองว่าไม่เคยรับประทานที่ไหนมาก่อน
ส่วนหอยนางรมญี่ปุ่นนั้นก็ถูกคัดสรรมาอย่างดีโดยเชฟประจำร้าน เป็นหอยนางรมที่รสชาตินุ่มนวล เข้ากันได้ดีกับเนื้อวัวสด และเพิ่มความสดชื่นให้กับเมนูนี้ด้วยเจลลี่พอนสึแบบโฮมเมดที่ปรุงโดยเชฟของทางร้าน ใช้ส้มยูซุจากญี่ปุ่นที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นให้กับเนื้อโอมิและหอยนางรม อีกทั้งยังให้เนื้อสัมผัสที่เข้ากันอีกด้วย
เพื่อให้คนไทยได้ลิ้มรสและรู้จักกับเสน่ห์ของเนื้อ “วากิว” วัตถุดิบระดับโลกที่คนญี่ปุ่นภาคภูมิใจ
เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ร้าน Suzuki Beef BKK ร้านที่เริ่มต้นด้วยเชฟโยชิฮิโระ (น้องชาย) เชฟร้านอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับดาวมิชลินในฝรั่งเศสมายาวนานกว่า 15 ปี และคุณโมโตฮิโระ ซูซูกิ (พี่ชาย) ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ผลิตเนื้อวากิวในโตเกียวและสิงคโปร์ ได้เปิดขึ้นที่สถานีพร้อมพงษ์ ทั้งคู่มีความตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนไทยได้ลิ้มรสและรู้จักกับเสน่ห์ของเนื้อ “วากิว” วัตถุดิบระดับโลกที่คนญี่ปุ่นภาคภูมิใจ
สำหรับเนื้อที่ทางร้านใช้นั้นจะเป็นการสั่งเนื้อวัวจากฟาร์มแบบพิเศษของญี่ปุ่นมาในลักษณะทั้งตัว ดังนั้น ลูกค้าที่มาเยือนร้านก็จะมีโอกาสได้ลองรับประทานชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนที่ไม่สามารถสั่งที่ร้านอื่น ๆ ในเมืองไทยได้ และหากพูดถึงวากิวแล้วล่ะก็ หลายคนคงจะเห็นภาพสเต็กเนื้อหรือเนื้อย่างลายหินอ่อนก่อน แต่นอกเหนือจากเมนูดังกล่าวแล้ว ยังมีวิธีรับประทานวากิวอีกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทางร้านจะใช้เนื้อวากิวผสมผสานกับวิธีปรุงแบบฝรั่งเศส นำเสนอเป็นคอร์สในรูปแบบ “ไคเซกิ” ซึ่งเป็นคอร์สเฉพาะของทางร้าน หรือหากใครที่อยากลองเป็นบางเมนูก็สามารถเลือกรับประทานแบบ a la carte ได้เช่นกัน
ที่ตั้ง: 682/5 ถนนสุขุมวิท (ระหว่างซอย 24 และ 24/1) แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
(ใช้เวลาเดินจาก BTS พร้อมพงษ์ ประมาณ 4 นาที)
โทร: 02-120-7746
เวลาทำการ:
17.00 – 22.30 น. (จันทร์, พุธ – ศุกร์)
11.30 – 14.00 น. และ 17.00 – 22.30 น. (เสาร์-อาทิตย์)
Last order: 30 นาทีก่อนเวลาปิดร้าน
วันหยุด: ทุกวันอังคารและวันทางศาสนา
Facebook: คลิก
อ่าน “3 สถานที่สวย ๆ ที่ต้องปักหมุดไว้! แล้วเตรียมไปตามรอย Cherry Magic The Movie กัน!” คลิก
“ชวนมองโลกอีกมุมผ่านผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินชาวญี่ปุ่น Kenji Sugiyama” คลิก
