YOASOBI ศิลปินคู่ผู้สร้างโลกแห่งเสียงเพลงจากตัวหนังสือในนิยาย
เมื่อปลายปี 2020 ที่ผ่านมาในงาน 71st NHK Kōhaku Uta Gassen หนึ่งในโชว์ที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดคือ การแสดงครั้งแรกของ YOASOBI ศิลปินคู่ชาย-หญิงอย่าง อายาเสะ (Ayase / Composer) และอิคุระ (Ikura / Vocal)
ในบทเพลงแรกของพวกเขา “Racing into the Night” ที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการเพลงอย่างไม่น่าเชื่อ
“Racing into the Night” กลายเป็นเพลงที่ครองอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Japan Hot 100 และบนแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลง Spotify, LINE Music รวมถึง TikTok ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และมียอดวิวจนถึงตอนนี้บน YouTube กว่า 165,676,312 Views และถูกแปลเนื้อเพลงไปมากกว่า 27 ภาษา กลายเป็นศิลปินดูโอที่ได้รับความนิยมจากคนฟังทั่วโลก
เพื่อให้คุณได้รู้จักกับพวกเขามากขึ้น ขอเชิญคุณพบกับเรื่องราวของคู่หนุ่มสาวก่อนจะกลายมาเป็น YOASOBI ศิลปินที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้
เด็กสาวและเด็กหนุ่มผู้รักในเสียงดนตรี
หลายปีก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะได้พบกัน ทั้งอายาเสะและอิคุระต่างก็มีความรักในเสียงดนตรี โดยอายาเสะได้พาตัวเองเข้าไปทำงานใน Live House ที่จัดคอนเสิร์ตต่าง ๆ และตั้งวงดนตรีที่เขาเป็นหัวหน้าวงขึ้นมา ถึงจะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เริ่มเล่นดนตรีที่รักเป็นครั้งแรก
ในฝั่งของอิคุระกันบ้าง ด้วยความที่อาศัยอยู่ที่อเมริกามาก่อน ทำให้เธอได้มีโอกาสฟังเพลงจากฝั่งตะวันตกเยอะมาก ทั้งเพลงโฟล์คและคันทรี่ที่คุณพ่อชื่นชอบ หรือเพลงจากการ์ตูนดิสนีย์ที่เธอชอบมากจนถึงขั้นไปซื้อเพลงประกอบภาพยนตร์มาเพื่อฝึกร้องโดยเฉพาะ
“ฉันหลงไหลในเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ฉันสามารถร้องเพลงติดต่อกัน 24 ชั่วโมงแบบไม่รู้จักเหนื่อย เพราะความฝันของฉันคือการได้เป็นนักร้อง ทำให้ฉันลงประกวดทุกเวทีและเข้าร่วมการออดิชั่นทุกประเภท ฉันคิดว่าตัวเองต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ ถ้าฉันไม่ได้ทำมันค่ะ” — อิคุระจังกล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใส
ในปี ค.ศ.2019 ทางค่ายเพลง Sony Music Entertainment (Japan) Inc. มีความตั้งใจที่จะนำเอาเรื่องราวจากนิยายออนไลน์ในเว็บ monogatary.com มาทำเป็นเพลง จึงมอบหมายให้ ยามาโมโตะ ชูยะ (Yamamoto Shyuya) ฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน (Artists and Repertoire / A&R) มาดูแลโปรเจกต์นี้โดยตรง พร้อมมองหาสมาชิกที่จะกลายมาเป็น “โยอะโซบิ” ในเวลาต่อมา
คำเชิญที่น่าสงสัยนี้ มันคืออะไรกันนะ!
คนแรกที่ทางยามาโมโตะให้ความสำคัญก่อนคือ Music Composer เพราะเป็นหัวใจหลักในการแต่งเพลง และเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เขาได้วางไว้ว่าเพลงของ YOASOBI. จะต้องมีความโดดเด่นในเรื่องของดนตรีมาก ๆ
นั่นจึงทำให้เขาสนใจในตัวของ อายาเสะ ที่ในตอนนั้นเป็น Vocaloid-P ที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งในวงการ โดยวิธีที่ยามาโมโตะติดต่ออายาเสะไปคือการส่ง Direct Message (DM) ไปทาง Instagram แทนที่จะเป็นการติดต่ออย่างเป็นทางการ
“ผมแปลกใจที่มีคนติดต่องานมาทาง DM คือปกติผมจะไม่ค่อยได้เข้าไปเช็คเท่าไหร่ พอผมได้เห็นข้อความก็รู้สึกขึ้นมาว่า “คำเชิญที่น่าสงสัยนี้ มันคืออะไรกันนะ” แต่สุดท้ายก็กดเข้าไปอ่านครับ” — อายาเสะตอบพร้อมเสียงหัวเราะ
ไม่ใช่แค่อายาเสะคนเดียวที่มีชะตาต้องกับอินสตาแกรม เพราะหลังจากที่อายาเสะและยามาโมโตะปรึกษากันจนได้แนวทางของเพลงที่ตั้งใจจะทำแล้ว พวกเขาก็เริ่มคิดถึงการหานักร้อง และก็ได้พบกับไฟล์เพลงที่อิคุระได้อัปโหลดไว้ในอินสตาแกรม ทั้งอายาเสะและยามาโมโตะต่างชื่นชอบเสียงเธอกันอย่างมาก ทำให้เธอถูกเชิญมาที่ Sony Music Entertainment (Japan) Inc. เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกโยอะโซบิในที่สุด
30 ดราฟต์ของ Racing into the Night
ที่จริงแล้วชื่อของ YOASOBI. นั้นมาจาก YORU = กลางคืน และ ASOBI = เล่นสนุก ซึ่งพอรวมเข้าด้วยกันแล้วอาจแปลได้ว่า “การเล่นสนุกยามค่ำคืน” ซึ่งเมื่อมองไปที่ชื่อเพลงแรกของพวกเขาอย่าง “Racing into the Night” ก็ดูลงตัวดี
เพลงนี้ถูกทำขึ้นโดยอิงจากนิยายที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเว็บ monogatary.com ที่มีชื่อว่า “การเย้ายวนจากทานาทอส” แต่งโดย ‘มาโยะ โฮชิโนะ’ เนื้อหาเกี่ยวกับความรักของชายหนุ่มเจ้าของเรื่องกับหญิงสาวที่พยายามจบชีวิตของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่กับการทำงานแล้ว สิ่งที่ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือการแก้ไขตัวเพลง
“ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเกือบทุกครั้งที่ผมส่งไป คุณยามาโมโตะแทบไม่เคยชมผมกลับมาเลย แถมยังมีคอมเมนต์กลับมาเต็มไปหมด ในช่วงแรกผมถึงกับคิดในใจว่า ทำไมหมอนี่ชอบยุ่งจัง” — อายาเสะเล่าไปขำไปกับช่วงเวลาเริ่มต้นโปรเจกต์
แต่เหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะทั้งสองคนเชื่อว่าการทำเพลงไม่มีสูตรสำเร็จ ถ้าอยากให้เพลงออกมาดีต้องผ่านการทดลอง รวมถึงตัวอายาเสะเองก็มองว่าถ้าให้แค่ตัวเองเป็นคนตัดสิน อัตตาก็จะทำให้เขามองไม่เห็นจุดบกพร่อง เขาจึงเลือกที่จะเชื่อในยามาโมโตะ และช่วยกันมองหาสิ่งที่ใช่ที่สุด
หลังจากที่ผ่านไปเกือบ 30 ดราฟต์ในที่สุดพวกเขาก็ได้เพลง Demo ที่ลงตัว
นักร้องนำของเราชื่อ “อิคุระ”
ถึงพวกเขาจะได้เดโม่เพลงที่พึงพอใจแล้ว แต่สิ่งที่น่ากังวลอย่างสุดท้ายคือนักร้องนำ เพราะด้วยเทคนิคมากมายในเพลงนี้ทำให้การร้องนั้นยากขึ้นตามไปด้วย แต่พวกเขาก็ไว้ใจอิคุระในฐานะนักร้องนำ และเธอก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
“ครั้งแรกที่ฉันได้ยินคอนเซ็ปต์ ฉันก็สงสัยว่าการสร้างเพลงจากนิยายเป็นอย่างไรกันนะ หลังจากที่คิดและลองอยู่พักนึง ฉันก็ตัดสินใจที่จะถอดตัวตนของฉันออกไป และเลือกที่จะตีความจากตัวละครหลัก และใช้เสียงที่กลมกลืนไปกับเสียงดนตรีแทนค่ะ” — อิคุระจังอธิบายถึงขั้นตอนในการทำงานของเธอ
อิคุระมักถูกอายาเสะขอร้องให้ทำสิ่งท้าทายตอนอัดเสียงอยู่บ่อย ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งอายาเสะได้บอกกับเธอว่า “ได้โปรดฆ่าอิคุระให้ตายสักครั้งเถอะนะ” หรือที่มีความหมายว่าขอให้เธอทิ้งตัวตนที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ไปเพื่อร้องเพลงท่อนนั้นให้ได้
ด้วยความที่เอาใจใส่ในงานและท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา เหตุผลเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพลงของโยอะโซบิ มีทั้งเนื้อหาที่ดี ดนตรีที่หวือหวา และเสียงร้องในแบบที่หาฟังที่ไหนไม่ได้
YOASOBI. และอนาคต
หลังจากที่ปล่อยเพลง “Racing into the Night” ออกมาในปี ค.ศ.2020 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของคู่หูดูโอชาย-หญิงคู่นี้เลยก็ว่าได้
พวกเขากลายเป็นศิลปินที่ถูกพูดถึงมากที่สุดวงหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ทั้งโชว์แรกสุดอลังการบนเวที 71st NHK Kōhaku Uta Gassen และไลฟ์โชว์ออนไลน์ครั้งแรกอย่าง KEEP OUT THEATER ต่างก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่าแฟนคลับ รวมถึงตัวอัลบั้มอย่าง THE BOOK ที่ออกมาวางขายได้ไม่นานก็กลายเป็นสินค้าขาดตลาด
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องที่ดี เพราะปีที่ผ่านมาอิคุระกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยไปแล้ว ทำให้เธอต้องจัดสรรเวลาในชีวิตอย่างหนักเพื่อการเป็นทั้งนักศึกษาและศิลปิน
“ฉันต้องปรับเวลา 24 ชั่วโมงในชีวิตใหม่ทั้งหมด มันยากมากที่จะจัดการชีวิตให้ลงตัวกับการเป็นศิลปิน YOASOBI. กับการเป็นนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยฉันต้องคอยส่งงานมากมายเพื่อยืนยันสิทธิ์ในการเรียนให้ยังคงอยู่ แต่สำหรับฉันแล้ว 2020 เป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก และสำหรับในปีนี้ฉันก็อยากทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกค่ะ” — อิคุระทิ้งท้ายด้วยแววตาที่มุ่งมั่นภายใต้รอยยิ้มที่อ่อนหวานของเธอ
ในฝั่งของอายาเสะเองก็ต้องหันมาทำเพลงให้กับโยอะโซบิแบบเต็มตัวจากครั้งแรกที่ถูกวางให้เป็นเพียงภารกิจเดียวจบ
“ผมหวังมาโดยตลอดที่จะทำเพลง J-POP ที่ดีที่สุด แต่ผมก็รู้ว่าผลลัพธ์นั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ มันจึงเป็นเรื่องที่พิเศษเสมอ เวลาได้รู้ว่ามีคนมากมายชอบในเพลงที่เราทำ มันเป็นความรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ครับ” — อายาเสะกับความมุ่งมั่นของเขา
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าอนาคตของ YOASOBI. ถือว่าสดใสมาก ๆ และถ้าพวกเขายังคงทุ่มเทให้กับงานต่อไปอย่างนี้ เราอาจจะได้เห็นทั้งคู่มีชื่อลุ้นรางวัลใหญ่ประจำปีอย่าง Japan Record Awards ก็เป็นได้
อ้างอิง
https://cocotame.jp/series/015030
https://signal.diamond.jp/articles/-/419
https://natalie.mu/music/column/413269
https://books.bunshun.jp/articles/-/5706
https://shingakunet.com/journal/trend/20201022000005
https://moonoiaom.wordpress.com/2020/12/31/interview-yoasobi-billbaord-2020-june
ยุ่นกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! : โอโซโนะ เรย์ : “เพราะเจ็บปวดจึงเข้าใจ” คลิก
