
“ศิลปะทำให้คนเกิดความเข้าใจในชีวิตมากขึ้น”
ที นทีพล เจริญธุระยนต์ ศิลปินชาวไทยผู้ทำภาพพิมพ์แกะไม้ที่ผสมผสานความเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นลงไปในงานได้อย่างน่าสนใจและไม่เหมือนใคร มีความเชื่อมั่นว่าศิลปะสามารถทำให้คนมีความเข้าใจในชีวิตมากขึ้น ก้าวต่อไปสำหรับการเป็นศิลปินของเขาคือการสร้างงานที่สามารถให้กำลังใจคนอื่นได้
แนะนำตัวให้ชาวดาโกะได้รู้จักกันหน่อย
ชื่อ ที นทีพล เจริญธุระยนต์ ในปีนี้จะอายุ 30 ปี จบการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิจิตรศิลป์ ตอนนี้ทำงานศิลปะอยู่ครับ แล้วก็มีสตูดิโอชื่อ Detales Studio ที่เชียงใหม่
เพราะงานที่ทำมีความเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เลยอยากรู้ว่าตอนเด็กเติบโตมากับการ์ตูนแบบไหน หรือพอจะจำได้มั้ยว่าการ์ตูนเรื่องไหนที่เราชอบมากตอนยังเป็นเด็ก
จริงๆ อ่านการ์ตูนเยอะมากครับ เรื่องไหนที่เขาอ่านกันในยุคนั้นผมก็อ่านหมด อย่าง One Piece เนี่ยไม่ต้องพูดถึง ผมอ่านตั้งแต่ยังอยู่ประถม แล้วตั้งแต่ยังเด็กผมก็ชอบดูการ์ตูนกับพี่อย่างเรื่อง Sailor Moon แต่เรื่องที่ชอบลายเส้นจริงๆ คือ Slam Dunk อ่านแล้วอ่านอีก ด้วยความที่ตอนนั้นอายุเรากับคาแรกเตอร์ในการ์ตูนใกล้ๆ กันด้วย เลยทำให้รู้สึกสนุกและอินไปกับมัน แต่จริงๆ ก็ไม่ได้อ่านแค่การ์ตูน หนังสือภาพประกอบเกี่ยวกับอาร์ตก็อ่าน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ชัดเจนว่าเราจะเรียนด้านอาร์ตด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะชอบอ่านมากกว่า
อยากให้เล่าชีวิตตอนเป็นนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์หน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง
ไม่ได้เป็นระเบียบมากครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้เป็นคนตั้งใจเรียนหรือเรียนเก่ง แล้วก็เป็นธรรมดาของวัยรุ่นที่มีความติดเพื่อนบ้าง แต่ยังชอบวาดรูปวาดการ์ตูนเพราะผมก็วาดมาแต่เด็ก ตอนเรียนในคลาสอาจารย์มักพูดกับผมเสมอว่างานที่ผมทำมันดูเหมือนการ์ตูน หรืออย่างสมัยเรียนมหาลัย ผมต้องทำศิลปะนิพนธ์ตอนอยู่ชั้นปีที่ห้า ช่วงนั้นหนักเลยครับเพราะอาจารย์บอกว่ามันไม่มีความเรียลลิสติกสักเท่าไหร่ แล้วด้วยในช่วงเวลานั้นเองที่งานศิลปะจะเน้นความเซอร์เรียลเป็นหลัก บวกกับเราเรียนไฟน์อาร์ตด้วย ซึ่งการที่เราทำงานศิลปะมันก็จะต้องมี reference มาจากงานในอดีตที่ไม่ได้มีความแหวกแนวมากนัก ตอนนั้นเองก็รู้สึกว่ามันทำให้เราทำงานยากอยู่เหมือนกันเพราะขอบเขตมันไม่ได้กว้าง หรือยังไม่มีอิสระเหมือนตอนนี้
ชีวิตการทำงานศิลปะหลังจากเรียนจบ
ตอนที่ผมเริ่มกลับมากล้าทำงานศิลปะก็ตอนอายุ 26 ปี เพราะพอเรียนจบ ผมหยุดไป 2 ปี ด้วยความที่อยากไปตามหาตัวเองก่อน เลยพักไปแบบไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับศิลปะเลย ตอนนั้นมีอะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ได้เอื้อให้เรามุ่งไปทางด้านศิลปะอย่างจริงจังด้วย กว่าจะรู้ตัวว่าชอบงานศิลปะก็สองปีถัดมา ผมได้มีโอกาสกลับมาทำช่วงปี 2016 ครับ ตอนนั้นสตูดิโอช่วงแรกมันเป็นแค่ห้องโล่งๆ ที่ทางบ้านผมสร้างให้ แล้วเราก็ค่อยๆ เริ่มกลับมาทำให้ห้องมันมีชีวิต ซึ่งตอนนี้ก็รกแล้ว (หัวเราะ) มีของเยอะมาก ทั้งกระดาษทั้งงานอะไรเยอะแยะไปหมด ตอนนี้รู้สึกสนุกมาก แต่ช่วงปีแรกนี่ขายงานไม่ได้เลยนะ ท้อสุดๆ คิดว่างานเรามันไม่สวยหรือมันไม่ดีเหรอ คนก็ไม่ได้พูดถึงด้วยเพราะเราไม่ได้มีชื่อเสียงมาก ผนวกกับทำงานอาร์ตในช่วงที่คนไม่ได้สนใจอาร์ตอีก แต่โชคดีที่มีรุ่นน้องที่รู้จัก เขาแนะนำให้หัวหน้าเขาฟังว่าผมทำงานภาพพิมพ์ที่นี่ แล้วหลังจากนั้นก็มีคนพูดต่อกันและช่วยกัน เราเองก็ปล่อยของโดยการเอางานไปโชว์บ้าง จึงทำให้คนก็เริ่มรู้จักมากขึ้น
ตอนแรกที่เพิ่งกลับมาทำงานศิลปะจริงจัง ผมยังหลงทางอยู่นะ คือผมรู้สึกว่างานมันไม่มีความชัดเจนเท่าไหร่จนกระทั่งได้มีโอกาสไปแสดงงานพร้อมอาจารย์และรุ่นพี่ ผมเห็นว่าทุกคนมีแนวทางชัดเจนดี จึงอยากทำได้แบบนั้นแล้วก็ได้แรงบันดาลใจจากพวกเขาจนได้ลองทำภาพแรกในช่วงปลายปี 2017 เป็นผู้หญิงปากดอกไม้ซ้อนๆ กัน รุ่นพี่ที่เห็นก็ทักว่างานนี้มีความน่าสนใจ แล้วเหมือนกับว่าช่วงนั้นมันเป็นยุคที่คนออกมาเรียกร้องให้แสดงถึงความแตกต่างและความชอบของตัวเอง ผมเลยหยิบความเป็นยุคนั้นมาแทรกในงานศิลปะของผม หลังจากนั้นก็มีพี่ที่เป็น curator ที่รู้จักติดต่อกัน เราก็ได้ไปแสดงงานที่กรุงเทพฯ ช่วงปลายปี 2018 ครับ
ผลงานหรือศิลปินที่ชอบ ไม่ว่าจะมาจากไทยหรือเทศ
สมัยเรียนผมชอบ Yoshimoto Nara กับ Takashi Murakami อีกคนเลยที่ผมชอบมากก็คือ René Magritte อย่าง The Son of Man ที่เป็นรูปแอปเปิ้ลปิดหน้า หรือ Norman Rockwell เป็นศิลปินที่วาดการ์ตูนแต่เป็นแนวเรียลลิสติก ดูงานของพวกเขาแล้วเรารู้สึกว่าทุกคาแรกเตอร์มันมีอารมณ์ของมัน หรือนักเขียนการ์ตูนไทยที่ผมชอบก็คือคุณ สุทธิชาติ ศราภัยวานิช ที่เขียนการ์ตูนเรื่อง JOE the SEA-CRET Agent หรือภาพพิมพ์แกะไม้ของศิลปินญี่ปุ่น Katsushika Hokusai ชื่อ The Great Wave ก็เนี้ยบและเจ๋งมาก
ไอเดียส่วนใหญ่ที่นำมามาสรรสร้างนั้นมาจากอะไร
มาจากชีวิตประจำวัน เรื่องราวที่เราเจอ อาจเป็นเรื่องราวที่คนมาเล่าต่อก็ได้ หรือเป็นสิ่งที่เราเจอแล้วเราหาคำตอบให้มัน เหมือนเป็นการแก้ปัญหาในชีวิตบางอย่างในชั่วขณะนั้น แต่ผมตั้งไว้แล้วว่าผมจะไม่สร้างงานที่ด่าว่าใคร ถ้าจะสร้างงานขึ้นมา ก็อยากให้มันเป็นงานที่พูดเรื่องสิ่งไม่ดี เพื่อให้คนมองเห็นสิ่งที่ดี หรืออย่างน้อยก็มีความสวยงามโดยที่คนมองงานของเราแล้วไม่ได้รู้สึกแย่ อยากให้เนื้อหาในงานออกมาเป็นเชิงบวกครับ
มีผลงานชิ้นไหนที่ทำออกมาแล้วถูกใจตัวเองมากที่สุด หรืองานภาพพิมพ์แกะไม้ชิ้นไหนที่คนชอบเยอะเป็นพิเศษมั้ย
จริงๆ ชอบที่สุดก็ชอบหลายชิ้นนะครับ ถ้าจะให้ว่ากันตามตรงก็เอาเป็นว่างานไหนที่เราทำออกมา เราก็ชอบหมด ไม่งั้นเราก็คงไม่ทำมันออกมา ส่วนงานที่คนชอบผมรู้สึกว่าจะมีคนชอบเยอะหรือไม่มันขึ้นอยู่กับสถานที่ เวลา และโอกาส ขึ้นอยู่กับคนมองเลยว่าเขาจะชอบตอนไหน บางทีถ้าเกิดมันคลิกกับตัวเขา มันก็ชอบได้เลย หรือบางทีที่ไม่ชอบเพราะอาจยังไม่คลิกในตอนนั้นเท่านั้นเอง อย่างภาพผู้ชายว่ายน้ำเป็นหนึ่งในงานที่มีคนสนใจเยอะครับ ถ้าใครสงสัยว่าภาพเป็นยังไงก็สามารถเข้าไปดูในไอจีแฮชแท็ก #nateepol ซึ่งจะมีงานชิ้นอื่นๆ ด้วย
เสน่ห์ของงานศิลปะในมุมมองคุณ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตงานและผู้เสพ
การที่เราจะสร้างงานศิลปะ อย่างแรกเลยคือต้องเป็นอะไรที่เราอยากทำก่อน ซึ่งแต่ละคนก็มีแรงบันดาลใจต่างกัน ถึงแม้ผลออกมารูปแบบอาจคล้ายกัน แต่ไอเดียในหัวไม่เหมือนกันแน่นอน ซึ่งผมคิดว่าเสน่ห์ของงานศิลปะคือมันการคาดเดาอะไรไม่ได้ครับ เพราะอย่างตอนที่ผมสร้างงานชิ้นนึง ตอนสเก็ตช์กับตอนที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นชิ้นงานสมบูรณ์มันอาจจะไม่เหมือนกันเลยก็ได้ ส่วนในฐานะผู้เสพ เสน่ห์ของงานศิลปะเป็นการที่ผมมองงานชิ้นนั้นแล้วผมเกิดความชอบ อย่างผมจะชอบงานที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงและความเหงา มันเห็นแล้วถูกชะตา แต่จริงๆ ศิลปะมันไม่มีถูกไม่มีผิดครับ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
คิดว่าบทบาทของศิลปินที่มีต่อสังคมคืออะไร
สำหรับผม ผมคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมนะ ถ้าผมสามารถทำงานอาร์ตแล้วคนมองเขาเกิดความเชื่อ และสามารถทำตามได้โดยที่ไม่มีใครคิดร้ายต่อกัน และทำเรื่องดีต่อไปเรื่อยๆ ก็น่าจะดี ศิลปะเกิดขึ้นมาเพื่อให้รู้คุณค่าของสิ่งของ ให้คนเห็นคุณค่าของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว แล้วยังขัดเกลาให้คนที่เห็นศิลปะมีความอ่อนโยน ละเอียดอ่อน หรือทำให้คนเกิดความเข้าใจในชีวิตมากขึ้น หรือจะพูดว่ามีศิลปะการใช้ชีวิตมากขึ้นก็ได้
พอได้มาเป็นศิลปินในวงการศิลปะแล้วมีอะไรที่ชอบและไม่ชอบในวงการศิลปะไทย
ชอบตรงที่คนไทยมีความครีเอท ด้วยความที่เราต่างมีร้อยพ่อพันแม่ และมีเรื่องราวไม่เหมือนกัน มันคือการเดินทางของแต่ละคนที่ทำให้เกิดงานศิลปะต่างๆ ขึ้นมา ส่วนสิ่งที่ผมไม่ชอบเลยคือการที่คนผลิตงานศิลปะมาตัดสินงานศิลปะของคนอื่นว่าเป็นงานที่ดีหรือไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ หรือเป็นคนดังก็ตาม สำหรับผมถ้าเกิดดูถูกใครหรือดูถูกอะไรตั้งแต่แรกก็เหมือนดูถูกตัวเอง เพราะงานศิลปะมันเชื่อมต่อกัน ในเชิงที่ว่าถ้าในอดีตคุณทำอะไร มันก็หล่อหลอมไอเดียและตัวคุณในปัจจุบันด้วย ถ้าไปตัดสินว่างานคนนี้ไม่สวย โดยที่จริงๆ ไม่รู้เรื่องราวอะไรของเขา ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตเขาอาจจะสร้างงานที่เจ๋งมากๆ ก็ได้ เพียงแต่งานชิ้นนั้นก็เป็นหนึ่งในช่วงชีวิตเขาเท่านั้นเอง คนเราไม่ควรไปตัดสินใครเร็วเกินไป หรือไม่มีสิทธิ์จะไปดูถูกคนอื่นเลยด้วยซ้ำครับ
โปรเจ็กต์ที่กำลังจะมีในอนาคต
มีโปรเจ็กต์จะแสดงงานด้วยกันกับ “ก้องกาน” ในอนาคตครับ แล้วก็จะมีงานส่วนตัวที่ตอนนี้อยู่ในกระบวนการผลิตอยู่ ซึ่งจะต้องผลิตให้เสร็จก่อนแล้วผมถึงจะหาสถานที่จัด ซึ่งยังไม่ได้ลงวันที่แน่ชัดว่าจะวันไหนครับผม
ช่องทางติดต่อหรือช่องทางติดตามผลงาน
Fb: Detales Studio
Ig: nateepol