จากการ์ตูนสุดฮิตสู่ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นสุดเดือด “BRAVE: GUNJO SENKI เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร”

ความมันส์ระห่ำแหลกครั้งใหม่ใหญ่กว่าเดิมบนจอภาพยนตร์เต็มรูปแบบ กับมหึมาการผจญภัยย้อนเวลาที่จะพลิกไฮสคูลให้กลายเป็นสมรภูมิของโคตรซามูไร ในภาพยนตร์แอ็กชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “Brave: Gunjo Senki เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร” นำทีมโดย “แมคเคนยู” นักแสดงหนุ่มขวัญใจสาว ๆ ที่หวนกลับมาแสดงนำในภาพยนตร์อีกครั้งกับบท “อาโออิ นิชิโนะ” เด็กหนุ่มผู้ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมจากชมรมยิงธนูที่ต้องมาเป็นความหวังสุดท้ายของเพื่อนทั้งโรงเรียนเพื่อกอบกู้ชะตากรรม และอนาคตให้รอดพ้นจากยุคสงครามที่มืดหม่นที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มี “กองทัพซามูไร” อยู่เกลื่อนรอบทุกสารทิศภายใต้เวลาอันจำกัด

BRAVE: GUNJO SENKI เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

งานนี้พวกเขาทุกคนจำต้องงัดเอาทักษะความสามารถของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการยิงธนู เทควันโด ชกมวย ฟันดาบ เบสบอล หรือแม้แต่วิทยาศาสตร์ มาร่วมกันประจัญบานสู้หนีตายในแดนสงครามซามูไรญี่ปุ่นแห่งยุคเซ็นโกคุ

BRAVE: GUNJO SENKI เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

“Brave: Gunjo Senki เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร” สร้างจากมังงะยอดฮิตของอาจารย์มาซากิ คาซาฮาระ ที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Weekly Young Jump ของทาง Shueisha ในปี ค.ศ.2013 ก่อนที่จะได้มีการตีพิมพ์แบบรวมเล่มในภายหลัง ถึงตอนนี้มังงะเรื่องนี้มียอดขายทะลุหลัก 100,000 เล่มเข้าไปแล้วในญี่ปุ่น และได้รับการโหวตจากแฟน ๆ ให้เป็นหนึ่งในมังงะที่ควรถูกนำไปสร้างเป็นไลฟ์แอ็กชั่นมากที่สุด โดยมีผู้อ่านเข้าร่วมโหวตมากถึง 10,000 คน ด้วยพล็อตที่ทวีความเข้มข้นและสนุกน่าติดตามแบบวางไม่ลง ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็วและในที่สุดมันก็ได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ Live Action สมใจแฟน ๆ

『群青戦記 グンジョーセンキ』

『群青戦記 グンジョーセンキ』

 

ฝีมือผู้กำกับ “คัตซึยูกิ โมโตฮิโระ” ที่เคยใส่เต็มความมันส์ระดับปรากฏการณ์ให้สะเทือนทั่วเอเชียมาแล้วใน “Ajin: Demi-Human อาจิน ฅนไม่รู้จักตาย” จับมือทีมผู้สร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นอย่าง Attack on Titan และ Shin Godzilla ซึ่งจะมาผนึกกำลังเจาะเวลาฉะเดือดสงครามให้เบรฟสมชื่อ และตอกย้ำให้ทุกคนต้องไม่พลาดชม อีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดของหนังญี่ปุ่นที่กลายมาเป็นมหกรรมความระห่ำครั้งสำคัญแห่งปี จนทุบสถิติรายได้ ชนะหนังบล็อกบัสเตอร์ฝั่งฮอลลีวูดทั้ง Free Guy และ A Quiet Place Part II ขาดลอยในญี่ปุ่น


งานภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและเหมาะกับการดูเพื่อความความบันเทิงเป็นอย่างมาก


แน่นอนกว่าการจะทำภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่น 2 ชั่วโมงจากเนื้อหาต้นฉบับ 17 เล่มนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนตัวเราที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนนั้น ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะมีเนื้อหาหรือรายละเอียดปลีกย่อยที่ถูกตัดออกไป

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ ทัพแสดงที่ขนนักแสดงนำและนักแสดงสมทบมาเล่นจำนวนมาก ชนิดที่แบบถูกฆ่าตายไปเยอะแค่ไหน ก็ยังมีตัวละครที่ยังคงมีบทเด่นในแต่ละช่วงได้อยู่ดี เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างกระจายบทอย่างทั่วถึง และคนดูอย่างเราก็สามารถเข้าใจบทของแต่ละตัวละครได้ง่ายด้วยการแบ่งกลุ่มหรือประเภทไว้อย่างชัดเจน เช่น คนไหนอยู่ทีมไหน ใครเป็นเพื่อนใคร ใครเป็นคู่กัดกับใคร ใครเป็นผู้นำ ใครเป็นผู้ตาม เป็นต้น

เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

การเปิดเรื่องก็ทำให้คนดูแบบเราที่ไม่ได้เตรียมใจมามันส์ตั้งแต่ต้นเรื่องถึงกับช็อคไปชั่วขณะ เรียกว่าเปิดเรื่องมาอย่างระห่ำแบบไม่ให้ได้เตรียมตัวหายใจ! เพราะเปิดเรื่องมาก็เป็นฉากเด็กมัธยมปลายถูกไล่ฆ่าอย่างโหดเหี้ยมโดยเหล่าซามูไร ตายเกลื่อนทั่วโรงเรียน (คิดว่าเป็นฉากที่โหดสุดของเรื่องแล้วล่ะ)

จุดเด่นที่สุดสำหรับเรื่องนี้ในมุมมองของเราก็คงจะเป็นการยกกีฬานานาชนิดมาใช้ในฉากแอคชั่นที่ทำออกมาได้ดีมาก มีท่าทางแอคชั่นน่าตื่นเต้นให้ได้ดูเรื่อย ๆ อีกทั้งการปรับกระบวนท่าทางของกีฬาแต่ละชนิดให้เข้ากับกระบวนท่าแอคชั่นนั้นก็สามารถทำให้เข้ากับสถานการณ์ในเรื่องได้เป็นอย่างดี ทั้งเคนโด้ คาราเต้ ฟันดาบ ชกมวย อเมริกันฟุตบอล และเบสบอล จึงทำให้เราได้เห็นฉากต่อสู้ที่ไม่เคยได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องอื่นมาก่อน

และอีกความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ มิอุระ ฮารุมะ (Miura Haruma) ที่รับบทเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์อย่าง มัตสึไดระ โมโตยาสุ (Matsudaira Matoyasu) ถึงจะไม่ใช่ตัวละครนำหลักของเรื่องอย่างแมคเคนยู แต่ก็เป็นบทที่ช่วยเสริมให้บทของแมคเคนยูโดดเด่นขึ้นได้อีกมาก อีกทั้งยังเป็นบทบาทที่ทำให้หลายฉากในเรื่องน่าจดจำด้วย (รอยยิ้มของมิอุระดีต่อใจมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ใจเจ็บด้วย) และบทอาโออิ คาแรกเตอร์ที่ดูจะซับซ้อนที่สุดในเรื่องนี้ แมคเคนยูก็สามารถรับบทได้ดีเลยทีเดียว

เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

ส่วนฉากโรแมนติกและดราม่ามีค่อนข้างน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ซึ่งฉากที่เราประทับใจก็คือ ฉากที่เด็ก ๆ แต่ละคนรำลึกถึงอาหารที่พวกเขากินก่อนการแข่งขัน และความเอาใจใส่ที่แม่ ๆ ของพวกเขาใส่ลงไปในอาหารมื้อนั้น

เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่าง อาจเป็นเพราะระยะเวลาที่มีเพียง 2 ชั่วโมง ทำให้เหตุการณ์หรือตัวละครสำคัญถูกใส่รายละเอียดลงเพียงคร่าว ๆ จนเรียกได้ว่ารวดเร็วเกินไปที่จะทำความเข้าใจ (โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในยุคเซ็นโกคุ) ถ้าเพิ่มข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์เข้าไปอีกสักเล็กน้อย เนื้อเรื่องก็คงจะน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

แต่สำหรับภาพรวมแล้ว เราคิดว่า “Brave: Gunjo Senki เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร” เป็นงานภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและเหมาะกับการดูเพื่อความบันเทิงเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้คอหนังญี่ปุ่นพลาดเลยล่ะ!

Brave: Gunjo Senki เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร

วอร์มร่างกายให้สตรองพร้อมปะทะซามูไรไปด้วยกัน! ถึงเวลาปะฉะดะสู้ยิบตา เปิดประตูสู่มิติมืดที่คนจริงเท่านั้นจะเป็นผู้ชนะ

Brave: Gunjo Senki เบรฟ เจาะเวลา ฉะซามูไร” 17 ก.พ.นี้ ในโรงภาพยนตร์

เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์


อ่าน “แนะนำ 5 ละครญี่ปุ่นเกี่ยวกับอาชีพ ฉบับผู้หญิงคลิก
69men ราเมงรสชาติเบา ๆ ที่กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ!คลิก

views