แนะนำ 5 ละครญี่ปุ่นเกี่ยวกับอาชีพ ฉบับผู้หญิง
women jobs
อะแฮ่ม คอลัมน์ใหม่สุดไฉไลมาแล้วจ้า ฤกษ์งามยามดีขอแนะนำคอลัมน์สักหน่อยก่อนแล้วกัน (เห่อ) คอลัมน์นี้ผู้เขียนตั้งใจว่าจะเขียนสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นค่ะ! ซึ่งจริง ๆ มันก็ออกจะกว้างอยู่ แต่ทุกเรื่องหมายมั่นเอาไว้ว่าจะเขียนด้วยความรักและความชอบ หวังว่าคอลัมน์นี้จะให้คุณประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย อย่างเก่งให้ผู้อ่านยิ้มได้สักหนึ่งจึกก็ปลื้มแล้วค่ะ
ส่วนชื่อคอลัมน์นั้นงมอยู่นานทีเดียว ได้ชื่อนี้มาเพราะว่าเราอยากเล่าเรื่องญี่ปุ่นแบบสุดแสนจะเอ็กซ์คลูซีฟ จริง ๆ ธงชาติของประเทศญี่ปุ่นคือ The rising sun เราเลยอยากเขียนเรื่องหลังพระอาทิตย์ดวงโต เล่นคำจาก “Rising” มาเป็น “Write-ซิ่ง” แทน เอ้อ…ไม่รู้เข้าท่าไหม แต่ก็ผ่านกองมาแล้ว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า
และหากพูดถึงความรักในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ละครญี่ปุ่นนี่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้ผู้เขียนหล่นเข้ามาอยู่ในโลกของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ละครหรือซีรีส์ญี่ปุ่นนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซีรีส์แต่ละเรื่องจะมีจำนวนตอนไม่เยอะมาก เท่าที่สังเกตมาจะอยู่ที่ราว 10 – 12 ตอนไม่เกินนี้ เนื้อหาดำเนินไว กระชับได้ใจความ เผลอแป๊ปเดียวก็จบเรื่องแล้ว ส่วนเรื่องไหนถ้าได้รับความนิยมมาก อาจจะมีภาคต่อ หรือ SP special ตอนพิเศษออกมา บ้างก็ดังจนเอาไปทำเวอร์ชั่นภาพยนตร์ต่อก็มี
ซีรีส์เกี่ยวกับอาชีพ ถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะล้วนแล้วแต่ทำออกมาได้สุด ตอบโจทย์ ทำให้คนดูได้เข้าใจและเข้าถึงอาชีพต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ในแง่การให้ความรู้สำหรับเด็ก ๆ ที่กำลังค้นหาตัวเองว่าอยากทำอะไร เหมือนครูแนะแนวก็ว่าได้ วันนี้เลยอยากจะยกสัก 5 เรื่องจากหลาย ๆ เรื่องขึ้นมาแนะนำกัน โดยเน้นหยิบยกเอาเรื่องที่มีผู้หญิงเป็นตัวหลัก! women jobs
Doctor-X: Surgeon Michiko Daimon
รูปประกอบ : www.tv-asahi.co.jp/doctor-x
ถ้าใครอยู่ในวงการละครญี่ปุ่น น่าจะพอคุ้นหูคุ้นตาเรื่องนี้กันมาบ้าง แต่จะเคยดูหรือไม่เคยดูนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ขอสารภาพตรงนี้เลยว่าผู้เขียนเพิ่งจะได้ดูเรื่องนี้ไปหมาด ๆ เองค่ะ เรื่องนี้จะเล่าเกี่ยวกับศัลยแพทย์สาวคนหนึ่งที่มากความฝีมือ การผ่าตัดของเธอทุกครั้งนั้นไร้ที่ติ คำพูดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอคือ 「私、失敗しないので」(watashi shippaishinai node) หรือที่แปลเป็นไทยได้ว่า “เพราะฉันไม่เคยพลาด” อาจจะเป็นวลีที่ทำให้หลายคนในเรื่องขุ่นข้องหมองใจ แต่เธอพูดจริง เพราะตลอด 6 ซีซั่นที่เธอผ่าตัดมา ไม่มีเคสไหนเลยที่เธอทำพลาด ทุกอย่างล้วนอยู่ในการคำนวณของเธอหมดแล้ว
รูปประกอบ : www.tv-asahi.co.jp/doctor-x
ข้อสำคัญของหนังเรื่องนี้คือการที่ตัวเอกแสดงความเป็นขบถออกมาอย่างชัดเจน ว่าเธอไม่เชื่อในองค์กร และไม่อยากถูกใช้งานในทางอื่นนอกจากการรักษาคนไข้ด้วยใจจริง ทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณหมอฟรีแลนซ์ ไม่สังกัดโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง แต่ด้วยฝีมือของเธอ ทำให้โรงพยาบาลมักต้องพึ่งเธออย่างเสียไม่ได้ แม้ว่าเธอนั้นจะควบคุมไม่ได้ และค่าตัวแพงหูฉี่ก็ตาม
รูปประกอบ : https://post.tv-asahi.co.jp/post-106730
จริง ๆ ละครญี่ปุ่นเกี่ยวกับแพทย์นั้นมีเยอะมาก และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ได้รับความนิยม แต่เหตุผลที่ผู้เขียนเลือกเรื่องนี้มาเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้เรตติ้งสูงสุด สำหรับละครที่ใช้นักแสดงหญิงเป็นตัวเอก เรียกได้ว่าเพราะละครเรื่องนี้ ทำให้นางเอกสาวอย่างโยเนะคุระ เรียวโกะ ได้รับฉายาเจ้าแม่เรตติ้งแห่งยุคเฮเซทีเดียว และด้วยจำนวนซีซั่นที่เยอะถึง 6 ซีซั่น รวมอีก 1 ตอนพิเศษ ยังเป็นเครื่องการันตีความนิยมของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี (แว่วมาว่าปี ค.ศ.2021 จะมีซีซั่นที่ 7 รอข่าวคอนเฟิร์มอีกทีค่ะ)
รูปประกอบ : https://post.tv-asahi.co.jp/post-103965
ผู้เขียนบทเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า เรื่องนี้มีต้นแบบเป็นคุณหมอที่มีชีวิตอยู่จริง ๆ และเคสต่า งๆ ที่หยิบยกมาพูดในแต่ละตอนล้วนเกิดขึ้นจริงสักมุมหนึ่งของโลก และผู้เขียนบทก็ยกเหตุการณ์นั้นขึ้นมาเขียนเป็นเคสในแต่ละตอน ซึ่งเนื้อหาภายในละครจะทำให้เรารู้ขั้นตอนการทำงานของแพทย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาแพทย์อยู่ในหน้าที่ ได้ฟังคำศัพท์ทางการแพทย์และได้รับความรู้พื้นฐานไปในตัว หนังเรื่องนี้จึงอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ที่กำลังเรียนอยู่ สนใจเรื่องการแพทย์ และอยากเป็นหมอที่แสนเก่งเหมือนตัวเอกก็เป็นได้
ช่องทางรับชม
Netflix : www.netflix.com/th/title/81166179
TrueID : https://movie.trueid.net
Haken no Hinkaku – The Pride of Temp
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/haken
เรื่องนี้ฉายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 อาชีพที่แนะนำให้เรารู้จักได้แก่ตำแหน่งพนักงานสัญญาจ้าง หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกตำแหน่งนี้ว่า Haken พนักงานที่ถูกจ้างเพียงชั่วคราว แล้วแต่ว่าบริษัทจะจ้างนานแค่ไหน บางคน 1 เดือน 3 เดือน หรือครึ่งปี หากทำผลงานดี ผ่าน 3 เดือนแรก อาจจะถูกบริษัทจ้างต่อในอีก 3 เดือนถัดไป เป็นต้น
สัญญาจ้างบริษัทจะทำสัญญาขึ้นตรงกับบริษัทหางานในญี่ปุ่น ที่เกิดระบบแบบนี้เพราะว่าปัญหาทางเศรษฐกิจ บริษัทไม่อาจจ้างพนักงานประจำได้ เพราะมีรายจ่ายเยอะเกินไป หากจ้างพนักงานประจำจะต้องเสียค่าประกัน และสวัสดิการต่าง ๆ ที่พนักงานพึงได้รับ จะเพิ่มหรือลดพนักงานก็ทำได้ยาก บริษัทจึงตัดปัญหาโดยการจ้างแบบสัญญาจ้างแทน พิจารณาเป็นวาระว่าขณะนั้นต้องการกำลังคนหรือเปล่า
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/haken2020
แน่นอนว่าตำแหน่งฮะเคนนั้นคล้ายกับฟรีแลนซ์ ซึ่งไม่มีความมั่นคงในอาชีพ นางเอกซึ่งเคยตกงานจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง เรียกได้ว่ามีใบรับรองเกือบทุกสายงาน อะไรที่เรียนรู้ได้ เธอนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้หมด เธอจึงกลายเป็นพนักงานสัญญาจ้างที่มีค่าตัวสูงมาก และจะทำงานตามระยะเวลาสัญญาเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ต่อสัญญาเด็ดขาด
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/haken2020
ละครเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ได้รับเรตติ้งสูงมากเช่นกัน ในทุกตอนของเรื่องนี้ ผู้เขียนขอยืนยันว่ามีเสียงหัวเราะทุกตอน และมีเรื่องให้ประหลาดใจ เหลือเชื่อได้ทุกตอนจริง ๆ กับตัวเอกอย่างโอมาเอะ ฮารุโกะ จำได้ว่าเพราะเรื่องนี้เลย ทำให้หลงรักละครญี่ปุ่นมาก จากที่คุ้นเคยกับละครที่เน้นเรื่องความรัก พอมาเจอเรื่องนี้เหมือนได้เปิดโลกเลยล่ะ
ละครทั้งสนุก คาดเดาไม่ถูก แปลกตา ตลก และยังมีฉากซึ้ง เรียกได้ว่าเป็นละครที่ครบทุกรสชาติเลยจริง ๆ และละครเรื่องนี้เพิ่งออกอากาศซีซั่นที่ 2 ไปไม่นานมานี้ ซึ่งยังคงเรตติ้งสูงไว้ดังเดิมได้ด้วย รับประกันเลยว่าหากได้ลองดู จะตกหลุมรักละครเรื่องนี้ และตัวละครหลักแน่นอน
Attention Please
รูปประกอบ : http://mtv.tokyo
เห็นแค่ภาพโปรโมตก็อาจจะเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องนี้เป็นละครที่เล่าเรื่องอาชีพแอร์โฮสเตสนั่นเอง เรื่องนี้ค่อนข้างเก่าแล้วเหมือนกัน เนื้อเรื่องดัดแปลงจากการ์ตูนมังงะ ฉายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1970 ก่อนจะนำมารีเมคอีกรอบในปี ค.ศ.2006 ออกอากาศผ่านช่องฟูจิทีวีร่วมมือกับ JAL
หลายคนอาจจะมองว่าธรรมดา เพราะเด็ก ๆ หลายคนต่างก็ฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นแอร์โฮสเตสกันถมเถไป แต่แท้จริงแล้ว รู้หรือไม่ว่าเพราะละครเรื่องนี้แหละ ช่วยชุบชีวิตสายการบินหลักของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Japan Airline หรือ JAL เพราะย้อนไปในขณะนั้น สายการบินแห่งชาติญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคที่ขาดแคลนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และพอละครเรื่องนี้ออนแอร์ ก็เกิดปรากฎการณ์ทำให้สาว ๆ ทั่วประเทศพากันหลั่งไหลสมัครเป็นแอร์โฮสเตส
ละครเรื่องนี้เล่าถึงนางเอก มิซากิ โยโกะ เด็กผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่มีแต่ผู้ชาย เธอนิสัยค่อนข้างจะทอมบอยออกแมน ๆ แต่กลับอยากเป็นแอร์โฮสเตสเพียงเพราะคนที่ชอบเคยบอกเอาไว้ว่าอยากเห็นเธอแต่งชุดสวย ๆ แบบนั้นบ้าง
ละครเรื่องนี้จะช่วยทำให้คนดูได้เข้าใจถึงอาชีพนี้อย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่การสมัคร การฝึก และความสำคัญที่แท้จริงของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พวกเธอไม่ใช่แค่สวย พูดภาษาต่างประเทศได้ และทำเพียงให้บริการผู้โดยสารภายในเครื่องบิน แต่แท้จริงแล้วเธอคือผู้ที่ช่วยดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง และเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนห้องโดยสารที่ลอยอยู่บนฟ้า
ในขณะเดียวกันเราก็จะได้รับรู้ถึงพลังในตัวโยโกะ ถึงความมุมานะ ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรคใด ๆ ที่ต้องเจอ มีทั้งฉากหัวเราะ ซึ้ง และร้องไห้ เรียกว่าครบรสเลยก็ว่าได้ ดูไปเรื่อย ๆ เราจะอินราวกับว่าเป็นเพื่อนสนิทของโยโกะที่คอยเชียร์ให้เธอก้าวข้ามผ่านปัญหาต่าง ๆ นานาไปให้ได้เพื่อก้าวถึงฝั่งฝัน เป็นละครน้ำดีอีกเรื่องที่เมื่อดูจบแล้วเราจะเข้าใจและเห็นคุณค่าของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือแอร์โฮสเตสกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ
Jimi ni Sugoi! Koetsu Garu Kono Etsuko – Pretty Proofreader
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/jimisugo
เคยสงสัยไหมว่า ”พิสูจน์อักษร” เนี่ยคืองานอะไร?
ละครเรื่องนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงการทำงานของหน่วยพิสูจน์อักษร ผู้อยู่เบื้องหลังความเป๊ะปังของทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวอักษร ผู้เขียนหยิบยกเรื่องนี้มาเพราะว่าตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านหนังสือ ได้ยินอยู่บ่อยครั้งกับคำว่ากองบรรณาธิการและพิสูจน์อักษร แต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรจนได้มีโอกาสมาทำงานจริงๆ หลายคนอาจจะเข้าใจว่าก็แค่อ่านภาษาไทยทวนซ้ำมันจะยากอะไร อยากจะบอกว่าไม่ใช่เลย มันไม่ใช่แค่นั้นคะทู้กกคนนนน
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/jimisugo/story/index.html
เรื่องนี้เอ็ทสึโกะ สาวสวยที่ตกหลุมรักนิตยสารแฟชั่นหัวปักหัวปำ เธอสมัครงานครั้งแล้วครั้งเล่า เพียรมาทุกปีแต่ก็ไม่ได้งานเสียที แต่ก็หาย่อท้อไม่ จนวันหนึ่งหลังจากที่เธอพยายามมาอย่างยาวนาน ผลของความพยายามก็ทำงาน แต่เหมือนจะไม่เป็นไปอย่างใจ เธออยากทำงานในกองบรรณาธิการของหนังสือ อยากแต่งตัวสวย ๆ มาทำงาน แต่ทว่าตำแหน่งที่เธอได้รับมอบหมายคือหนึ่งในกองพิสูจน์อักษร ที่อยู่ชั้นใต้ดินอันเงียบเชียบ ต่างจากกองบรรณาธิการบนตึกที่ใฝ่ฝันไว้อย่างลิบลับ เธอเชื่อว่าหากทำงานในแผนกนี้ไปสักวันเธออาจจะได้รับโอกาสก้าวขึ้นไปยังแผนกที่ตัวเองต้องการ
รูปประกอบ : www.ntv.co.jp/jimisugo/story/story02.html
ในแต่ละตอนทุกคนจะได้รู้จักงานพิสูจน์อักษรไปพร้อม ๆ กับเอ็ทสึโกะ และร่วมเดินทางไปกับการทำงานของเธอ เนื้องานที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวเอกจะค่อย ๆ ตกหลุมรักงานที่ทำอย่างช้า ๆ และค้นพบว่าตำแหน่งพิสูจน์อักษรเนี่ย มันไม่ใช่แค่อ่านหนังสือหรือแก้ไขตัวอักษรเท่านั้นนะ มันดีพกว่านั้นมาก ใครที่ชอบอ่านหนังสือ หรือใครที่เคยสงสัยว่าเจ้าตำแหน่งนี้สำคัญยังไง อยากชวนมาดูละครเรื่องนี้ มาร่วมค้นหาคำตอบไปพร้อมกับเอ็ทสึโกะกัน!
Amachan
อามะจัง ละครอีกหนึ่งเรื่องที่พลิกประวัติศาสตร์วงการละครญี่ปุ่น ช่วยฟื้นฟูและโปรโมตจังหวัดอิวาเตะให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง พร้อมกับคำพูดติดปาก じぇじぇじぇ ที่ขึ้นแท่นคำสุดฮิตในปี ค.ศ.2014
เรื่องนี้เล่าถึงอาชีพของชาวพื้นบ้านของญี่ปุ่น นั่นก็คืออาชีพงมหอยเม่น อาชีพนี้ใกล้จะหายไปจากปัจจุบันเข้าทุกที แต่เพราะละครยาวเรื่องอามะจังที่กลับมาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ทั้งสำหรับสายอาชีพดังกล่าวและจังหวัดที่โดนน้ำท่วมอย่างหนักอย่างอิวาเตะ ทำให้เกิดการเชิญชวนให้คนมาเที่ยว เรียกว่ากลายเป็นจังหวัดฮ็อตฮิตไปช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้
ละครเรื่องนี้เป็นละครที่ช่วยส่งเสริมชีวิตคนโดยแท้จริง เพราะนอกจากจะช่วยเล่าถึงความสำคัญของอาชีพนักงมหอยเม่นแล้ว ยังทำให้คนญี่ปุ่นกลับมาสนใจในจังหวัดเล็ก ๆ อย่างอิวาเตะ เกิดเป็นแคมเปญท่องเที่ยวอย่างมากมาย อาชีพที่เราแทบไม่รู้จักและไม่มีโอกาสได้สัมผัส ความรักและแรงบันดาลใจที่สืบทอดจากบรรพบุรุษสู่รุ่นปัจจุบัน ละครเรื่องนี้จะพาให้คุณอบอุ่นหัวใจไปกับความน่ารักและความอบอุ่น มุมมองของชีวิตในหลายแง่มุม พร้อมเอาใจช่วยเรื่องราวของสองแม่ลูกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและคราบน้ำตา บอกเลยว่าญี่ปุ่นเขาเป็นนักทำละครฟีลกู้ด รับรองไม่มีผิดหวัง
ดังแค่ไหนถามใจดู ละครเรื่องนี้ได้รับรางวัลการันตีความดีงามมากถึง 7 รางวัล ตั้งแต่บทละคร นักแสดง การผลิต ยันเพลงประกอบเลยทีเดียว แถมเรตติ้งยังสูงปรี๊ด ติด 10 อันดับละครของช่อง NHK เลยนะเออ
บ้านเรายังเคยนำเข้ามาฉายทางช่อง Thaipbs ด้วยล่ะ รับรองดูแล้วจะอิน และซาบซึ้ง แถมยังปลูกฝังจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้คนดูอย่างเรา ๆ ด้วย จนอดคิดไม่ได้ว่าหากประเทศเรามีละครแบบนี้บ้างก็คงดีไม่น้อยเลย
เอาล่ะค่ะ ครบแล้วทั้ง 5 เรื่องที่ผู้เขียนอยากแนะนำ ขอบอกว่าเลือกยากมาก เพราะว่ายังมีละครน้ำดีอีกหลายเรื่องให้พูดถึง 5 เรื่องนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของละครน้ำดีทั้งหลาย หากใครเคยดูเรื่องไหน หรือลองไปติดตามชมเรื่องไหนแล้วถูกใจ ก็กลับมาพูดคุยกันได้นะ ส่วนบทความ หน้าหากอยากอ่านอะไรเป็นพิเศษก็กระซิบบอกมาได้เหมือนกัน อิอิ
“หนังรักญี่ปุ่นที่อยากชวนมาดูด้วยกันวันวาเลนไทน์” คลิก
“New beginnings ฤดูใบไม้ผลิกับการเริ่มต้นใหม่” คลิก