Drifting Home เรียนรู้ที่จะปล่อยวางอดีตและกล้าที่จะก้าวต่อไปในปัจจุบัน
สารภาพว่าตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เราแทบไม่ได้ดูซีรีส์ หนัง อนิเมะ หรือแอนิเมชั่นเรื่องอะไรผ่านทางแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เลย จนกระทั่งในวันหยุดวันหนึ่งที่รู้สึกว่าสมองพร้อมจะพร้อมรับข้อมูลจากความบันเทิงด้านนี้เพิ่มแล้วจึงตัดสินใจล็อกอินเข้าเน็ตฟลิกซ์พร้อมโจทย์ที่กำหนดเวลาให้ตัวเองได้ใช้ผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ไม่เกิน 2.5 ชั่วโมง ประจวบเหมาะกับ “Drifting Home” ลงฉายพอดี เลยตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วว่าจะดูแอนิเมชั่นความยาว 2 ชั่วโมงเรื่องนี้แหละ!
“Drifting Home” หรือชื่อภาษาไทยคือ “บ้านล่องลอย” ส่วนภาษาญี่ปุ่นคือ “雨を告げる漂流団地” (Ame wo Tsugeru Hyouryuu Danchi) เป็นผลงาน Original Netflix ที่สร้างสรรค์โดย Studio Colorido ทีมผู้สร้างผลงานที่หลายคนน่าจะเคยดูหรือผ่านตากันมาบ้างอย่าง Penguin Highway (2018) หรือ A Whisker Away (2020) และได้คุณฮิโรยาสุ อิชิดะ (Hiroyasu Ishida) ผู้กำกับเรื่อง Penguin Highway มาเป็นผู้กำกับให้
พวกเขาจะสามารถเดินทางกลับไปยังโลกเดิมได้หรือไม่?
“บ้านล่องลอย” เป็นเรื่องราวของเพื่อนสมัยเด็ก “โคสุเกะ” และ “นัตสึเมะ” ที่อาศัยภายในตึกเดียวกันและเติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง กระทั่งในวันที่คุณปู่ยาสุจิ คุณปู่ของโคสุเกะจากโลกนี้ไป ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดระหว่างทั้งสองคน
วันหนึ่งในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โคสุเกะและเพื่อนร่วมชั้นของเขาแอบลอบเข้าไปในอาคารเก่าที่กำลังจะถูกรื้อถอนหรืออาคารที่หลายคนเรียกว่า “บ้านผีสิง” อาคารแห่งนี้คือสถานที่แห่งความทรงจำที่โคสุเกะและนัตสึเมะเติบโตขึ้นมา และในตอนที่โคสุเกะลอบเข้าไปภายในอาคาร พวกเขาก็ได้พบกับนัตสึเมะโดยไม่คาดคิด รวมทั้งยังได้ยินเรื่องราวการมีอยู่ของเด็กชายลึกลับที่ชื่อ “นปโปะ”
ทันใดนั้น อาคารที่ทุกคนลอบเข้าไปก็ปรากฏอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และมีอาคารบ้านเรือนล่องลอยผ่านไปมาในทะเลลึกลับแห่งนี้
เด็ก ๆ จะสามารถร่วมมือกันฟันฝ่าเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้หรือไม่ จะกลับไปยังโลกใบเดิมได้อีกหรือเปล่า นี่คือจุดเริ่มต้นของปิดเทอมฤดูร้อนในครั้งนี้ของพวกเขา
จากอดีตที่เป็นความทรงจำ เปลี่ยนผ่านสู่ปัจจุบันที่ไม่เหมือนเดิม
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่เราสัมผัสได้ถึงภาพความทรงจำในอดีตที่ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านกาลเวลาไปพร้อม ๆ กับเพลงประกอบโดย ZUTOMAYO ที่มีความเป็น City Pop ซึ่งช่วยเพิ่มความโหยหาอดีตให้กับคนดู และเผยให้เห็นความผูกพันของตัวละครหลัก (โคสุเกะ และ นัตสึเมะ) ณ อาคารซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของพวกเขา ค่อย ๆ เริ่มต้นอย่างเนิบช้าและเชิญชวนให้เราได้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็กดูบ้าง สนามหญ้าแห่งนั้นที่เล่นวิ่งไล่จับกันกับเพื่อน หรือ เส้นทางนั้นที่ชวนกันวิ่งเล่นในทุก ๆ วัน เป็นความทรงจำจาง ๆ ที่ก็ยังพอเห็นภาพได้เกือบชัดเจน
แต่หลังจากที่เด็ก ๆ ลอบเข้าไปภายในอาคารร้างได้สำเร็จ ผ่านสถานการณ์ชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อย ทันใดนั้นการผจญภัยในโลกแฟนตาซีก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
จริงอยู่ที่เป็นการผจญภัยในโลกแฟนตาซี แต่หากให้เทียบความสดใสของเรื่องราวกับเรื่อง Penguin Highway และ A Whisker Away แล้วล่ะก็ เราว่าเรื่องนี้มีความหม่นที่ใกล้เคียงกับความสมจริงของสถานการณ์อยู่ค่อนข้างมาก การที่อาคารแห่งหนึ่งลอยละล่องอยู่ท่ามกลางทะเลที่ไร้ซึ่งผู้คนนั้นจะให้สดใสเพราะตัวละครเป็นเด็กประถมก็คงจะขัดกับความรู้สึกของใครหลายคน (เด็ก ๆ ก็มีเรื่องให้เครียด กังวล หรือพบพานกับวันหม่น ๆ ได้เหมือนกันละน้า)
ซึ่งในขณะที่เด็ก ๆ ต้องพยายามหาวิธีกลับมายังโลกที่พวกเขาเคยอยู่ ต้องวางแผน ดิ้นรน และฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น สิ่งพวกเขาได้เจอก็ทำให้แต่ละคนได้เรียนรู้ที่จะยอมทิ้งความเอาแต่ใจ ความดื้อรั้นของตนลงทีละน้อย แล้วร่วมมือกันฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน อาจไม่ได้มีการพัฒนาเนื้อเรื่องเพื่อให้คาแรกเตอร์แต่ละตัวค่อย ๆ เติบโต แต่เป็นสถานการณ์บังคับที่ให้พวกเขาต้องปรับตัว ปรับความคิดแบบปัจจุบันทันด่วนเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ตรงหน้าไปให้ได้เสียมากกว่า
ตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องอาจไม่มีบทบาทที่เด่นชัด แต่ถ้าขาดตัวละครใดตัวละครหนึ่งไปก็คงลดอรรถรสและสีสันของเรื่องลงไปมากพอตัว และนอกจากโคสุเกะรวมทั้งนัตสึเมะแล้ว อีกตัวละครที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษคือเด็กชายลึกลับ “นปโปะคุง”
สำหรับเรา “นปโปะคุง” คือตัวแทนของอดีตที่สื่อออกมาในคาแรกเตอร์ของเด็กคนหนึ่งให้เราได้เห็นความเป็น “อดีต” ที่เดินตามเราอยู่ได้ชัดเจนมาก ๆ ในวันที่ปัจจุบันไม่เป็นไปดังที่หวัง หลายคนมักจะโหยหาความงดงามในอดีต ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะเราก็ทำแบบนั้น และ “เราทุกคนล้วนมีนปโปะคุงในเวอร์ชั่นของตนเอง”
แต่แน่นอนว่าอดีตที่ผ่านมาไม่ได้มีแต่ความงดงามที่ช่วยให้ปัจจุบันเราเบ่งบานได้เสมอไป อดีตของทุกคนย่อมมีเรื่องราวที่เจ็บปวดหรือมืดมนที่คอยฉุดรั้งเราให้จมดิ่งด้วยเช่นกัน พอได้เห็นนปโปะคุงใน “บ้านล่องลอย” มันเลยทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่เรากำลังยอมให้นปโปะคุงรั้งเราไว้ในอดีตทั้งที่ไม่จำเป็นอยู่รึเปล่านะ?” เพราะจริง ๆ แล้วทุกอดีตไม่ได้พยายามรั้งเราไว้เลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเราเองต่างหากที่ยอมให้อดีตเกาะติดและดึงเราด่ำดิ่งจนบางทีก็ส่งผลต่อปัจจุบัน
ดังนั้น การที่มีคาแรกเตอร์นปโปะในเรื่องนี้จึงทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวางอดีตไว้ที่อดีต แล้วพยายามก้าวต่อไปในปัจจุบันโดยไม่ต้องมานั่งกังวลถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วได้เป็นอย่างดี
หากคาแรกเตอร์เป็นวัยผู้ใหญ่แล้วล่ะก็…
การที่เนื้อเรื่องค่อย ๆ ดำเนินไปทำให้เราค่อย ๆ เข้าใจและยอมรับได้ว่าการให้คาแรกเตอร์หลักของเรื่องเป็นวัยเด็กประถมถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เพราะในขณะที่ดูเรื่องนี้ไป ในใจก็ลองนึกภาพว่าถ้าหากคาแรกเตอร์ในเรื่องเป็นวัยผู้ใหญ่แล้วล่ะก็… จะเป็นแบบไหนกันนะ? เราว่าการผจญภัยคงไม่เกิดขึ้น การก้าวผ่านอุปสรรคแต่ละอย่างคงเป็นช่วงเวลาที่แสนคร่ำเคร่งและเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย แต่การเป็นเด็กทำให้เราสัมผัสได้ถึงความคิด ความรู้สึกอันใสซื่อและตรงไปตรงมาของเด็ก ๆ ฉันคิดว่าฉันทำแบบนี้ได้ งั้นฉันทำแล้วนะ! มันมีความกล้าเผชิญหน้าในรูปแบบที่ผู้ใหญ่ (หลายคน) ไม่สามารถทำได้อยู่ ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนใจผู้ใหญ่อย่างเราได้เป็นอย่างดีว่าในขณะที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นก็อย่าลืมความรู้สึกของการเป็นเด็กด้วยนะ
และถ้าถามเราว่าเรื่องนี้เหมาะกับเด็กไหม ในมุมของการคิดวิเคราะห์ เราว่าก็คงไม่เหมาะเพราะมันมีความลึกของเนื้อหาที่ซ่อนไว้อยู่ แต่ถ้าในมุมของแฟนตาซี การเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ การช่วยเหลือแบ่งปันซึ่งกันและกัน ในมุมเหล่านั้นก็ถือว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อเด็ก ๆ ไม่น้อย เรามองว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ที่พยายามให้เด็กเป็นผู้ส่งต่อเมสเสจที่ซ่อนไว้เสียมากกว่า เด็กที่เป็นตัวแทนของพวกเราในอดีตที่เดินทางมาบอกกับเราว่า “ปล่อยพวกเราไว้เป็นความทรงจำก็พอนะ อย่าให้พวกเราฉุดรั้งเธอไว้เลย จงเติบโตและใช้ชีวิตกับปัจจุบันให้สนุกนะ!”
และถ้าหากคุณสัมผัสได้ถึงเมสเสจดังกล่าวแล้วล่ะก็ เราขอยินดีต้อนรับคุณกลับสู่โลกแห่งความจริง โอคาเอริ! (おかえり!) แล้วมาใช้ชีวิตปัจจุบันที่ปล่อยวางอดีตไปแล้วให้สนุกกันเถอะนะ 🙂
ดู Drifting Home ทาง Netflix คลิก
อ้างอิง
– www.hyoryu-danchi.com
เรื่อง: ทัศวีร์ เจริญบุรีรัตน์
อ่าน “Pretty Proofreader: 4 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากตัวละคร โคโนะ เอ็ตสึโกะ” คลิก
“เปิดตัวการจัดเทศกาลดนตรีฮิปฮอปสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก Rolling Loud Thailand” คลิก