ชวนตามรอย “ดั่งดวงหฤทัย” พร้อมดื่มด่ำธรรมชาติอันงดงามที่จังหวัดยามากาตะ!
ใครเกิดทันละคร “ดั่งดวงหฤทัย” ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2539 กันบ้างเอ่ย? ถ้าเกิดไม่ทัน นวนิยายชวนฝัน บทประพันธ์ของ ลักษณวดี ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งแล้วนะ! ละครแนวรักโรแมนติกเรื่องนี้ ถือเป็นละครฟอร์มยักษ์ที่หลายคนตั้งตารอคอย และจะเริ่มฉายตอนแรกในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2563 ชวนตามรอย
ตอนที่ได้ดูตัวอย่างละครเรื่องนี้ และเห็นฉากพระราชวังที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนอันสวยงาม ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีว่าฉากต่างๆ ในเรื่องนี้ เขาถ่ายทำที่ไหนกันบ้างนะ เราจึงเริ่มค้นหาคำตอบเพื่อคลายข้อสงสัย และค้นพบว่าหนึ่งในสถานที่ดังกล่าวก็คือจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) นั่นเอง
จังหวัดยามากาตะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า โทโฮคุ แผนที่ของจังหวัดยามากาตะนั้น เมื่อสังเกตให้ดี จะมองเห็นเป็นลักษณะของใบหน้าด้านข้างที่กำลังยิ้มอ้าปากอยู่ เปรียบได้กับชาวยามากาตะพร้อมที่จะทักทาย และต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นนั่นเอง
จังหวัดที่มีความหลากหลายและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
จังหวัดยามากาตะ มีความหลากหลายและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เต็มไปด้วยภูเขา แม่น้ำ และทะเล ความน่าดึงดูดของยามากาตะนั้น จึงไม่สามารถบรรยายได้ด้วยคำเพียงไม่กี่คำ
ถ้านึกถึงจังหวัดยามากาตะ สิ่งแรกที่เรานึกถึงเพราะถือเป็นความโดดเด่นของจังหวัดนี้เลย ก็คือ “สโนว์มอนสเตอร์” (Snow Monster) หรืออสุรกายหิมะแห่งเทือกเขาซาโอะ (Mt.Zao) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หิมะ และน้ำแข็งได้ปกคลุมต้นไม้ไปทั่วบริเวณจนทำให้มอง ดูคล้ายกับรูปปั้นของอสูรกาย
นอกจากนี้ยังมีภูเขาอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่ง เช่น เทือกเขาโชไค (Mt. Chokai) เทือกเขานิชิอะซะมะ (Mt. Nishiazama) และสามภูเขาของเดวะ ซังซัน (Dewa Sanzan) จุดแห่งพลังงานที่ประกอบไปด้วยภูเขาศักดิ์สิทธ์ 3 ลูกในยามากาตะ
เต็มไปด้วยหมู่บ้านออนเซ็นที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัด
ที่จังหวัดยามากาตะ ยังเต็มไปด้วยหมู่บ้านออนเซ็นที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัด เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจและน่าเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะถือเป็นอีกวิถีชีวิตของชาวยามากาตะ ออนเซ็นที่น่าสนใจ เช่น กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ซาโอะออนเซ็น (Zao Onsen) อาคายุออนเซ็น (Akayu Onsen) เป็นต้น
เปรยกันมาขนาดนี้แล้ว เชื่อเลยว่าหากคุณผู้อ่านได้ดูละครดั่งดวงหฤทัยจนจบ คุณจะต้องตกหลุมรักจังหวัดยามากาตะมากยิ่งขึ้น ดาโกะจึงขอชวนคุณไปตามรอย “ดั่งดวงหฤทัย” ที่จังหวัดยามากาตะกัน!!
ตัวอย่างสถานที่ถ่ายทำในจังหวัดยามากาตะ ที่น่าไปตามรอย
หอวัฒนธรรมบุนโชคัง (Bunshokan)
อาคารอิฐ รูปแบบเรเนซองส์ ตามสไตล์สถาปัตยกรรมตะวันตก ก่อสร้างขึ้นในปีไทโชที่ 5 (ค.ศ.1916) ในอดีตถูกใช้เป็นศาลาว่าการจังหวัด และหอประชุมสภา ต่อมาในปีโชวะที่ 59 (ค.ศ.1984) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และตลอดระยะเวลานับ 10 ปี ตั้งแต่ปีโชวะที่ 61 ได้มีการอนุรักษ์และบูรณะอาคารให้เหมือนเดิมมากที่สุด
ปัจจุบัน หอวัฒนธรรมบุนโชคัง (Bunshokan) ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มากมาย และกลับมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจังหวัดยามะกาตะให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี!
ผู้ที่อยากไปสัมผัสและเห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและยุโรปของยุคไทโชโรมัน จึงควรค่าแก่การเดินทางไปที่นี่
แม่น้ำโมกามิ (Mogami River)
แม่น้ำโมกามิ (Mogami River) ที่ไหลผ่านจังหวัดยามากาตะนั้นมีประวัติอันยาวนาน เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ เอื้อต่อการพัฒนาทางวัฒนธรรมในพื้นที่รอบแม่น้ำ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำโมกามิ โดยเริ่มต้นการเดินทางจากหมู่บ้านทาซาวะ (Tazawa) เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามริมแม่น้ำโมกามิได้ทุกฤดูกาล
น้ำพุร้อนซาโอะ (Zao Onsen)
น้ำพุร้อนซาโอะ (Zao Onsen) ได้ถูกค้นพบในปี 110 ก่อนคริสตศักราช มีชื่อเสียงในความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในสามน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นอีกด้วย
น้ำพุร้อนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักดีในเรื่องความเป็นกรดสูง และถูกขนานนามว่าเป็น “The Princess Hot Spring” และ “The Fountain of Beauty” เพราะมีชื่อเสียงในการรักษาทั้งสภาพผิวและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
น้ำพุร้อนกลางแจ้งซาโอะ (Zao Roten Buro) ที่มีชื่อเสียงนั้น อยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ตั้งของรีสอร์ทต่างๆ ผู้มาแช่ออนเซ็นที่นี่จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอิสระของการอาบน้ำกลางแจ้งที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่นเองด้วยเช่นกัน
มนต์เสน่ห์อื่นๆ ของจังหวัดยามากาตะ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามหลายแห่งแล้วนั้น จังหวัดยามากาตะยังมีมนต์เสน่ห์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัวโยเนซาวะ วัวพันธุ์ขนดำ ที่มีวิธีการเลี้ยงแสนพิเศษบนที่ราบสูง ทำให้เนื้อวัวมีลายหินอ่อนที่พอดี เมื่อได้กินแล้วจะรู้สึกว่าเนื้อละลายในปาก และเพื่อลิ้มรสชาติของเนื้อวัวชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่ จึงนิยมนำมาทำเนื้อย่าง สุกี้ยากี้ สเต็ก และชาบู
นอกจากเนื้อวัวโยเนซาวะแล้ว จังหวักยามากาตะยังมีงานหัตกรรมที่ใช้เทคนิคแบบโบราณ รวมไปถึงเทคนิคที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นร่วมสมัยอีกด้วย
การเดินทางไปยังจังหวัดยามากาตะ
โดยรถไฟ
โดยสารรถไฟ JR Tohoku Shinkansen Tsubasa จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Yamagata ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
หรือ โดยสารรถไฟ JR Tohoku Shinkansen Hayabusa หรือ Komachi จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Sendai ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Senzan ไปลงสถานี Yamagata ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที
โดยเครื่องบิน
จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินไปลงสนามบิน Yamagata Airport โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
หรือ จากสนามบินโอซาก้า (Osaka Airport) สามารถเดินทางด้วยเครื่องบินไปลงสนามบิน Yamagata Airport ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
หรือ จากสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถบินตรงไปลงสนามบิน Sendai Airport ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง โดยสายการบินการบินไทย
เรื่องย่อละครดั่งดวงหฤทัย
กาสิก พันธุรัฐ และทานตะ สามดินแดนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นสามประเทศที่ตั้งอยู่ติดกัน แต่มีภูมิอากาศ วัฒนธรรม ผลิตผลที่แตกต่างกัน และมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถกล่าวว่าเป็นความสัมพันธ์ฉันมิตรได้
เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี จึงมีการจัดให้มีการแต่งงานทางการเมืองระหว่างเจ้าหลวงรังสิมันตร์แห่งกาสิก กับเจ้าหญิงมณิสราแห่งทานตะ แต่ระหว่างการเดินทางไปกาสิกเพื่ออภิเษกสมรส เจ้าหญิงมณิสราได้หายตัวไปที่พันธุรัฐ
เจ้าหลวงรังสิมันตร์สงสัยว่าพันธุรัฐจะลักพาตัวไปจึงเดินทางไปยังพันธุรัฐ ในขณะเดียวกันเจ้าหญิงทรรศิกากัญญาวดีแห่งพันธุรัฐได้ข่าวเหตุการณ์นี้ และกลัวว่าพี่ชายคือเจ้าชายทุติยธรที่เกลียดชังกาสิกจะใช้โอกาสนี้ก่อสงคราม จึงเดินทางไปสืบเรื่องราว ระหว่างทางเกือบพลัดตกหน้าผา แต่ได้รับความช่วยเหลือจากชายชุดดำ ซึ่งชายชุดดำนั้นก็คือเจ้าหลวงรังสิมันตร์นั่นเอง…
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามละคร “ดั่งดวงหฤทัย” เพิ่มเติมได้ทาง
www.womjapan.com/yamagata-dung-duang-hareutai
