
Shinjuku Gyoen ชมธรรมชาติและดอกไม้ 4 ฤดูใจกลางชินจูกุ
Shinjuku Gyoen (新宿御苑) หรือ Shinjuku Gyoen National Garden สวนสาธารณะขนาดใหญ่เงียบสงบ หลบหลีกจากความวุ่นวายของย่านชินจูกุที่ผู้คนแสนพลุกพล่าน ในวันที่ไม่มีเทศกาลใดๆ เราจะเห็นภาพพื้นที่สีเขียวสบายตา มีคุณตาคุณยายออกมาเดินเล่น คุณครูอนุบาลพาเด็กๆ ออกมานั่งวาดรูป วิ่งเล่น รุ่นพี่จูงรุ่นน้องเดิน เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างมาก
…..
สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็นมีต้นกำเนิดในสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603 – 1867) ในฐานะที่อยู่อาศัยในโตเกียวของขุนนางศักดินา ต่อมาได้ถูกดัดแปลงให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ก่อนที่จะถูกย้ายไปยังราชวงศ์อิมพีเรียลในปี ค.ศ.1903 ซึ่งใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและสถานที่สร้างความบันเทิงให้กับแขกผู้มาเยือน สวนสาธารณะแห่งนี้ถูกทำลายเกือบทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้ถูกสร้างขึ้นอีกครั้งและเปิดใหม่ในปี ค.ศ.1903 เพื่อเป็นสวนสาธารณะ โดยสวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยภูมิสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่ออกแบบโดยผสมผสานสวนแบบต่าง ๆ เอาไว้อย่างลงตัว ประกอบด้วย
สวนภูมิทัศน์ หรือสวนอังกฤษที่มีสนามหญ้ากว้างขวางรายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่โตตามธรรมชาติ หากมองลอดผ่านตรงกลางของแนวสายตาจะพบกับต้นทิวลิปทรี (Tulip Tree) ต้นไม้สัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ที่สูงกว่า 30 เมตร
สวนฝรั่งเศส ที่ปลูกต้นเพลน (Plane Tree หรือ London Plane) เป็นแนวสมมาตร 2 ฝั่ง 4 แถว รวมกันราว 160 ต้น ตรงกลางเป็นแปลงกุหลาบบานสะพรั่งถึง 110 ชนิดที่มีมากกว่า 500 ต้น
สวนญี่ปุ่น โดยเป็นสวนญี่ปุ่นแบบจิเซ็นไคยูชิกิ (池泉回遊式) ซึ่งเป็นสวนในลักษณะที่มีทางเดินล้อมรอบบ่อน้ำขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ในอดีตบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่สร้างขึ้นสำหรับล่าเป็ด แต่ได้มีการทำปรับปรุงขึ้นใหม่เป็นสวนญี่ปุ่นในยุคโชวะ และช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกๆ ปีจะมีการจัดแสดงดอกเบญจมาศบริเวณนี้
นอกจากนั้น บริเวณสวนญี่ปุ่นยังมีบ่อทามาโมะอิเคะ (玉藻池) เป็นบริเวณที่ยังคงร่อยรอยในอดีตของบ้านตระกูลไนโตะ ยุคเอโดะเอาไว้ และปัจจุบันที่จุดพักผ่อนโอคิโดะได้มีการสร้างเรือนพักที่มองออกไปเห็นทัศนียภาพของบ่อน้ำ ภูเขา หุบเขา ซึ่งถือเป็นการจำลองธรรมชาติมาไว้ในสวนอีกด้วย
ป่าแม่และเด็ก (母と子の森) เป็นบริเวณที่สร้างขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ในเมืองหลวงได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งบรรดาพืชพรรณ ดอกไม้ และสิ่งมีชีวิตอย่างแมลงชนิดต่าง ๆ
รวมทั้งที่สวนชินจูกุ เกียวเอ็นยังมีเรือนกระจกที่มีพืชเขตร้อนให้ศึกษา แม้ว่าคนไทยอย่างเราจะคุ้นหน้าคุ้นตาต้นไม้ในเรือนกระจกนี้มากกว่าในสวนปกติอยู่แล้วก็ตาม แต่ภายในก็มีการจัดแสดงอย่างน่าสนใจ เข้ามาหลบแดดเดินชมเปลี่ยนบรรยากาศจากด้านนอกก็ได้เหมือนกัน
ภายในสวนแต่ละฤดูกาลจะมีพืชพรรณและดอกไม้ที่เป็นไฮไลท์คอยแต่งแต้มสีสันให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ แมกไม้แตกยอดอ่อนจากการจำศีลในฤดูหนาว ดอกตูมเริ่มผลิบาน สร้างสีสันกลับมายังสวนแห่งนี้
เดือนมีนาคม : ซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ สึบากิ ยูลันแมกโนเลีย ฮานาโมโมะ
เดือนเมษายน : ซากุระพันธุ์ยาเอะ ตระกูลอาโอมานะ (ปีบฝรั่ง) ซึซึจิ ฮานะมิซึกิ พิลาปขาว
เดือนพฤษภาคม : ทิวลิปทรี ซาสึกิ โทจิโนะคิ กุหลาบ โฮโอโนะคิ
ฤดูร้อน ยอดอ่อนเติบโตเต็มที่ให้สีเขียวชอุ่ม ดอกไม้ได้รับน้ำ – แสงแดดเบ่งบานอย่างเต็มที่ ฝูงแมลงปอบินเล่นกันในสนามหญ้า
เดือนมิถุนายน : ตระกูลอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย) อเมริกาคิซาซาเกะ พุดซ้อน นัทสึสึบากิ ฮังเกะโช
เดือนกรกฎาคม : แมกโนเลียดอกใหญ่ อะกาแพนทัส ลิลลี่ลายเสือ มุคุเกะ(ตระกูลชบา)
เดือนสิงหาคม : ยี่เข่ง ยี่โถ ดอกดินแดง บัว มินาซึกิ
ฤดูใบไม้ร่วง สายลมเย็นเริ่มพัดพาเข้ามา ใบไม้เขียวแปรเปลี่ยน ย้อมสีเหลือง ส้ม แดง
เดือนกันยายน : ลิลลี่แมงมุมแดง ซึซึกิ ลิลลี่คางคก ซึรุโบะ ฮากิ
เดือนตุลาคม : กุหลาบ ดอกหอมหมื่นลี้ ดอกคามิเลียญี่ปุ่น ซากุระเดือนสิบ ต้นชา
เดือนพฤศจิกายน : จัดแสดงดอกเบญจมาศประจำฤดูใบไม้ร่วง ต้นเสือดาว และใบไม้เปลี่ยนสี เช่น ต้นแปะก๊วย ต้นเพลน
ฤดูหนาว ใบไม้ร่วงโรย เข้าสู่ช่วงเวลาหลับใหลของพืชพรรณอยู่ใต้ดินเพื่อทนต่ออากาศหนาวเย็น
เดือนธันวาคม : กล้วยไม้ ใบไม้เปลี่ยนสี เช่น ต้นเมเปิ้ล (คาเอเดะ, ฮานาโนะคิ) ไม้ล้มลุกตระกูลนาซิสซัส ลูกบิวะ (ผีผา)
เดือนมกราคม : พืชตระกลูโรไบ (วินเทอร์ สวีท) ฟุคุจูโซ กล้วยไม้ ซากุระฤดูหนาว
เดือนกุมภาพันธ์ : ดอกบ๊วย ซากุระพันธุ์คาวาซึ ซันชุยุ พวงหยก มังซาคุ (วิชฮาเซล)
สามารถดาวน์โหลดแผนที่จุดน่าสนใจประจำฤดูได้ในเว็บไซต์ หรือหยิบจากภายในสวน
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://fng.or.jp/shinjuku/
สวนสาธารณะแห่งนี้ยังเป็นโลเคชั่นหลักของแอนิเมชั่นซึ่งเป็นผลงานของมาโกโตะ ชินไค เรื่อง “ยามสายฝนโปรยปราย” หรือ “Garden of Words” (言の葉の庭) เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้มีฝันอยากเป็นช่างทำรองเท้าที่ได้พบกับหญิงสาวอายุมากกว่านั่งจิบเบียร์กับช็อคโกแล็ตบาร์ในสวนสาธารณะแห่งนี้ในวันที่ฝนตก หลังจากฝนหยุด เธอได้ฝากกลอนทังกะไว้และจากไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เจอกันอีกทุกครั้งในวันที่ฝนตก….
©Makoto Shinkai / CoMix Wave Films
คุณภาพของงานภาพเรื่องนี้ละเอียดลออเสมือนจริง แสดงให้เห็นความเขียวขจีภายในสวนอันเงียบสงบ แว่วเสียงนกและแมลงร้องระงม ตัดกับความวุ่นวายของย่านชินจูกุ เหมือนเราได้เดินย่ำน้ำฝนไปในสวนแห่งนี้ด้วยตัวเอง อยากชวนให้ไปหาลองชมกันก่อนได้ไป หรือใครที่เคยชมแล้ว จะไปเดินตามรอยก็น่าสนุกทีเดียวค่ะ
ค่าเข้าชม: 500 เยน
การเดินทาง:
จากสถานี Shinjuku รถไฟ JR สาย Keio, Odakyu Line เดิน 10 นาที
จากสถานี Shinjuku-Sanchome รถไฟ Tokyo Metro สาย Marunouchi, Fukutoshin Line และรถไฟ Toei สาย Shinjuku เดิน 5 นาที
วัน-เวลาทำการ:
ปิดทุกวันจันทร์ หากวันจันทร์เป็นวันหยุดจะหยุดวันถัดไป และระหว่าง 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
ช่วงพิเศษระหว่าง 25 มีนาคม – 24 เมษายน และ 1 – 15 พฤศจิกายน เปิดบริการทุกวัน
เวลาทำการแตกต่างกันไปแต่ละฤดูกาล โปรดตรวจสอบ : https://fng.or.jp/shinjuku/en/
*ขณะนี้เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 มีประกาศปิดสวนสาธารณะชั่วคราวต่อจากกำหนดเดิมที่ปิดถึงวันที่ 11 มกราคม 2564 โปรดติดตามในเว็บไซต์ของสวนสาธารณะ