Halloween จุดสิ้นสุดของฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเข้าสู่ช่วงแห่งความหนาวเย็น
สำหรับเทศกาลฮาโลวีน (ハロウィン, Halloween) นั้น เชื่อกันว่าเทศกาลนี้มีที่มาจากเทศกาลโบราณของชาวเคลต์ หรือที่คนไทยหลายคนเรียก ชาวเซลติก (Celtic) ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเมื่อสองพันปีมาแล้วในแถบไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และตอนเหนือของฝรั่งเศส โดยวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้นถือเป็นวันปีใหม่ของชาวเคลต์และถือเป็นจุดสิ้นสุดของฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเข้าสู่ช่วงแห่งความหนาวเย็น ชาวเคลต์จึงเชื่อกันว่าในคืนก่อนวันปีใหม่นั้น เส้นแบ่งระหว่างโลกกับสถานที่หลังความตายจะพร่าจาง วิญญาณแห่งความตายจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวของพวกเขาในวันนี้
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันตนเองจากวิญญาณดวงอื่น ๆ หรือแม่มดที่อาจจะตามมาด้วย ชาวเคลต์จึงสวมหน้ากากและจุดไฟเพื่อปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้น ซึ่งเป็นธรรมเรียมปฎิบัติที่ปฏิบัติกันต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในคืนวันที่ 31 ตุลาคมจะมีการประดิษฐ์ตะเกียงฟักทอง หรือ แจ็ค โอ แลนเทิร์น (Jack O’Lanterns) โดยการนำฟักทองมาแกะเนื้อด้านในออกแล้วนำเทียนปักเข้าไปข้างในแทน ส่วนเด็ก ๆ ก็จะแต่งตัวเป็นแม่มด พ่อมด หรือภูติผีต่าง ๆ พร้อมตระเวนไปตามบ้านแต่ละหลังที่มีการประดับดวงไฟหรือของประดับสำหรับเทศกาลฮาโลวีนไว้ที่หน้าประตูบ้านแล้วพูดว่า “Trick or Treat?” จะเลือกให้ขนมกับฉันหรือจะให้ฉันหลอกคุณดี? รวมทั้งในวันดังกล่าว แต่ละครอบครัวก็จะมีการทำขนมจากฟักทองเพื่อรับประทานกันในครอบครัวพร้อมกับขนมที่เด็ก ๆ ได้รับมาด้วย
ความแตกต่างของเทศกาลฮาโลวีนที่อเมริกาและที่ญี่ปุ่น
สำหรับเทศกาลฮาโลวีนของอเมริกานั้นถือว่าเป็นการจัดกิจกรรมที่จริงจังกันมาก แต่ละบ้านมีการจัดอุปกรณ์ตกแต่งบริเวณบ้านโดยรอบ อีกทั้งบางบ้านก็จะตกแต่งบริเวณสวนด้วย ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้น ผู้คนจะสนุกสนานกับการแต่งกายเสียมากกว่า โดยจะแต่งเป็นแม่มด พ่อมด สัตว์ประหลาด หรือแต่งตัวเลียนแบบตามอนิเมะ ภาพยนตร์ ดารา ฯลฯ ซึ่งทำให้บรรยากาศในวันฮาโลวีนของญี่ปุ่นนั้นดูแปลกตาและแตกต่างไปจากที่อื่น แต่ที่ญี่ปุ่นจะไม่มีธรรมเนียมการตระเวนไปแต่ละบ้านเพื่อรับขนม อย่างไรก็ตาม อาจมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรภายในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนอยู่บ้าง
นอกจากนี้ เพื่อให้วันฮาโลวีนน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ดิสนีย์แลนด์และสถานที่อีกหลายแห่งก็จะมีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี อีกทั้งการขยายตัวของผู้ใช้งาน SNS ก็ทำให้เทศกาลฮาโลวีนในญี่ปุ่นนั้นได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นทุกปีด้วยเช่นกัน
ขนมสำหรับช่วงเทศกาลฮาโลวีนและกิจกรรมวาดรูประบายสีที่ UMF Fuji Super
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ทาง UFM Fuji Super จะมีการจำหน่ายขนมสำหรับช่วงเทศกาลฮาโลวีน รวมถึงมีการจัดกิจกรรมวาดรูประบายสีเกี่ยวกับวันฮาโลวีน โดยเด็ก ๆ ที่ร่วมกิจกรรมจะได้รับของที่ระลึกจากทางร้านด้วย!กระดาษวาดรูปและของรางวัลการเข้าร่วมมีจำนวนจำกัด รีบเลยยย!
ภาพวาดระบายสีจากเข้าร่วมกิจกรรมจะนำมาติดประดับตกแต่งที่ฟูจิ ซูเปอร์จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน กระดาษแบบฟอร์มและของรางวัลมีจำนวนจำกัด ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ที่นำส่งก่อน (ภาพวาดที่ส่งเข้าร่วมสนุก ทางร้านจะทำการติดแสดงจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน และทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการคืนภาพวาด) สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดบริการลูกค้าของ UMF Fuji Super ทุกสาขา
ออเดิร์ฟน่ารัก ๆ สไตล์ Halloween ที่ทำจากผลไม้ไทย
สำหรับใครที่อยากสร้างบรรยากาศให้เข้ากับวันฮาโลวีนด้วยเมนูของกินเล่นที่ทำได้ง่าย ๆ เราขอแนะนำผลไม้ 2 ชนิดนี้เลย! อย่างแรกคือ กล้วย โดยนำกล้วยมาปอกเปลือกแล้วหั่นครึ่ง ก่อนตกแต่งหน้าตาด้วยครีมช็อกโกแลต อีกอย่างคือ ส้ม นำส้มมาปอกเปลือกออกให้หมด และหั่นผักสีเขียว เช่น แตงกวาหรือขึ้นฉ่าย มาตกแต่งด้านบนให้มีลักษณะคล้ายฟักทอง
และนอกจากผลไม้ หากอยากจะลองทำเมนูกินเล่นที่เพิ่มความน่ากลัวขึ้นมาอีกนิด ก็สามารถใช้ไส้กรอกได้เช่นกัน โดยการนำไส้กรอกมาตัดส่วนปลายให้มีลักษณะคล้ายเล็บ พร้อมหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ ให้เหมือนรอยย่นของนิ้วมือก่อนนำไปอบหรือปิ้ง หลังจากนั้นนำไปวางบนขนมปังแล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไส้กรอกนิ้วมือที่เหมือนของจริงและเพิ่มบรรยากาศน่ากลัวนิด ๆ ให้กับปาร์ตี้ฮาโลวีนได้แล้ว
หรือหากจะใช้ไส้กรอกในการเตรียมมื้อเช้าวันฮาโลวีน ก็เพียงแค่เตรียมไส้กรอก 5 ชิ้นที่ตกแต่งด้วยซอสมะเขือเทศให้เหมือนนิ้วมือ พร้อมไข่ดาวสักฟองที่ตกแต่งด้วยซอสมะเขือเทศและสาหร่ายให้เป็นหน้าตาตามไอเดียของเรา เท่านี้ก็ได้เมนูอาหารเช้าที่เข้ากับบรรยากาศในวันฮาโลวีนแล้วล่ะ
สตูว์ครีมข้นฟักทองทั้งลูก: สตูว์กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้น ในลูกฟักทอง
เมนูที่ทำได้ง่ายและอร่อยที่ไม่ว่าจะฮาโลวีนปีไหน ๆ เราก็อยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำดู
วิธีทำ
1. นำฟักทองเข้าไมโครเวฟประมาณ 8 นาทีด้วยความร้อน 600 วัตต์ หากฟักทองยังแข็งอยู่ให้นำเข้าไมโครเวฟต่ออีกประมาณ 30 วินาที หรือจนกว่าจะนุ่มได้ที่
2. ตัดบริเวณด้านบนเพื่อใช้ทำเป็นฝา แล้วคว้านเมล็ดและเนื้อด้านในลูกฟักทองออกด้วยความระมัดระวังให้สวยงาม
3. ตกแต่งฟักทองให้น่ารักมากขึ้น โดยการใช้มีดแกะสลักบริเวณเปลือกให้เป็นหน้าแจ็ค โอ แลนเทิร์น ในที่นี้ อาจจะแกะสลักให้หน้าตาของแจ็ค โอ แลนเทิร์น ดูใจดีมากขึ้น เพื่อเด็ก ๆ จะได้ไม่กลัว (ข้อควรระวัง: ไม่ควรแกะสลักลึกเกินไปจนเป็นรู)
4. หั่นเนื้อไก่ แครอท และเนื้อฟักทองที่คว้านออกมาให้เป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้
5. ใช้ครีมสตูว์กึ่งสำเร็จรูปชนิดก้อน ยี่ห้อ S&B Torokeru Cream Stew ซึ่งมีจำหน่ายที่ UFM ฟูจิ ซูเปอร์ ทำสตูว์ โดยทำตามวิธีที่ระบุบนกล่อง พร้อมใส่เนื้อไก่ แครอท และเนื้อฟักทองที่หั่นเตรียมไว้ลงไป (หรือจะเพิ่มความอร่อยโดยการใส่เห็ดลงไปด้วยก็ได้)
6. เทสตูว์ที่ทำเสร็จลงในฟักทองที่แกะสลักเตรียมไว้ ถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
*แนะนำให้ใช้ฟักทองขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 18 – 20 เซนติเมตร สีสวยงาม และเปลือกแข็ง
โอกาสในการเพิ่มคะแนนบัตรสะสมแต้มมาถึงแล้ว!
สำหรับสมาชิกผู้ถือบัตรสะสมคะแนน “Bonus Card” ของ UFM ฟูจิ ซูเปอร์
ทุกวันที่ 10 ของเดือนรับคะแนนพิเศษเพิ่มถึง 8 เท่า
ทุกวันอาทิตย์ของสัปดาห์เพิ่มคะแนนพิเศษ 5 เท่า!
สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้สมัครบัตรสมาชิกสามารถสมัครเพื่อรับสิทธิพิเศษนี้ได้ที่จุดบริการลูกค้า UMF Fuji Super ทุกสาขา
*การสมัครสมาชิกต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน (หรือหมายเลยพาสปอร์ต), หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่
**โปรโมชั่นเพิ่มคะแนนพิเศษอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า
***สินค้ากลุ่มสุรา, บุหรี่, กระเช้าของขวัญพร้อมส่วนลด, บัตรกำนัล, บัตรโทรศัพท์ (บัตรเติมเงิน ซิมการ์ด), ค่าถ่ายเอกสาร, บริการส่งดอกไม้และผลไม้ของบริษัท Jalux และผลิตภัณฑ์ฝากขาย ไม่สามารถสะสมแต้มได้
อ่าน “โทโรโระ เมนูที่อุดมด้วยคุณประโยชน์และทำได้ง่าย อีกหนึ่งอาหารญี่ปุ่นที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก!” คลิก