ฤดูร้อนแสนประทับใจที่ไอจิ -

เรื่อง/ภาพ/กราฟิก : เป้อาไม่รัก วีดิโอ : POK
ข้อมูล :คูมิโกะ, เฟียต

ไอจิ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศในภูมิภาคจูบุ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
ทางประวัติศาสตร์ และทางวัฒนธรรมอันหลากหลายแล้ว ขณะเดียวกัน ทางฟากฝั่งของความศิวิไลซ์ก็นำโด่งไม่แพ้ใคร เพราะมีเมืองหลวงที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาโกย่า จังหวัดและเมืองหลวงแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจเยอะเชียว ถ้าไม่เชื่อไปดูกัน

1.ไปเที่ยวชมประวัติศาสตร์

ปราสาทนาโกย่า
หนึ่งในปราสาทที่ดังเป็นลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น แลนด์มาร์คประจำเมืองที่หากไม่ได้มา ก็เหมือนยังมาไม่ถึง
นาโกย่า ปราสาทนาโกย่า ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ และถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ก่อนได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1959 มีการจำลองรูปแบบดั้งเดิมออกมาเกือบทั้งหมด พร้อมๆ กับการเล่าเรื่องราวของผู้คนในยุคสมัยนั้น และเรื่องราวแวดล้อมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวปราสาทในส่วนพิพิธภัณฑ์ที่แทรกตัวอยู่ในแต่ละชั้น

ชาจิโฮโคะ
ชาจิโฮโคะ (Shachihoko) สัตว์ในตำนานที่มีหัวเป็นเสือ ตัวเป็นปลา ว่ากันว่า เวลาที่เจ้าชาจิโกรธจะมีน้ำพุ่งออกมา ด้วยเหตุนี้ มันจึงถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันอัคคีภัย และกลายเป็นเสมือนหนึ่งผู้ปกป้องคุ้มครองเมือง

Nagoya Castle ผู้ใหญ่ 500 เยน /เปิด 09.00-16.30 น. / หยุดช่วงปีใหม่ / สถานี Shiyakusho Sta. (Meijo Line) ทางออก 7 / www.nagoyajo.city.nagoya.jp

วัดโอสุ คันนน
โอสุ คันนน วัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ยุคคามาคุระ (ค.ศ.1333) บางส่วนของตัววัดถูกทำลายไปในช่วงสงคราม ภายหลังจึงมีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1970 ภายในตัวอาคารหลัก เป็นสถานที่เก็บพงศาวดาร
เก่าแก่กว่า 15,000 เล่ม ติดๆ กันกับตัววัด คือย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองที่เต็มไปด้วย ร้านขายของ
ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้า และอีกนานาจิปาถะ ไหว้พระเสร็จแล้ว แวะไปเดินเล่นกินขนมก็เพลินดีนะ

Osu Kannon Temple เปิด 06.00-19.00 น. / ไม่มีวันหยุด / วัดตั้งอยู่ที่สถานี Osu Kannon Sta. (Tsurumai Line) ทางออก 2 / www.osu-kannon.jp

2.ไปตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม

TOYOTA AUTOMOBILE MUSEUM
พิพิธภัณฑ์โตโยต้าที่ไม่ได้มีแค่รถโตโยต้า แต่ยังมีอีกครึ่งที่เต็มไปด้วยรถคลาสสิคมากมายจากทั่วทุกมุมโลก
มาให้ได้ชมกันอย่างเต็มที่ ในคอนเซ็ปต์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์รถยนต์ของโลก ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของรถยนต์จากยุโรป ก่อนที่จะต่อยอดมาสู่พัฒนาการของรถยนต์ในญี่ปุ่น พร้อมจำลองบรรยากาศและ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยของพัฒนาการรถยนต์กับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น คนที่ชอบรถคลาสสิค
ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

Toyota Automobile Museum ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เปิด 09.30-17.00 น. / หยุดวันจันทร์ / เดิน 5 นาทีจากสถานี Geidai-dori Sta. (Linimo Line) ทางออก 1 /www.toyota.co.jp/museum

SCMAGLEV and Railway Park
พิพิธภัณฑ์รถไฟที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และพัฒนาการของรถไฟญี่ปุ่น ตื่นตาตื่นใจไปกับรถไฟเกือบ 40 ขบวน และไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมรถไฟรูปแบบใหม่ที่จะเร็วกว่าชินคันเซน กับรถไฟที่จะวิ่งด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าแทนระบบมอเตอร์ มันคือ Super Conducting Magnet Linear

พร้อมห้องจำลองการเดินทางของสายโทไคโดชินคันเซนใน 1 วัน ให้เหลือเพียง 20 นาที ชมโมเดลจำลอง
จุดสำคัญในแต่ละเมือง พร้อมๆ กับเอฟเฟคแสงสีที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา และห้องทดลองขับรถไฟชินคันเซนในบรรยากาศจำลองที่เสมือนหนึ่งได้ขับอยู่บนรางรถไฟจริงๆ

SCMAGLEV and Railway Park ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (เครื่องเล่นบางส่วนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) / เปิด 10.00-17.30 น. / หยุดวันอังคาร / เดิน 2 นาทีจากสถานี Kinjofuto Sta. (Aonami Line) / museum.jr-central.co.jp

NAGOYA CITY SCIENCE MUSEUM
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของเมืองนาโกย่า สถานที่ที่ทำให้เรื่องวิทยาศาสตร์ยากๆ อันน่าเบื่อของหลายๆ คน กลายเป็นเรื่องสนุกสนานที่คุณสามารถเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์อันหลากหลาย บอกว่าวันเดียวก็ดูไม่หมด

4 ไฮไลต์ที่ห้ามพลาด

ไฮไลต์ 1 สายฟ้าจำลอง
ห้องจำลองการปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูง จนเกิดเป็นสายฟ้าที่ยาวกว่า 4 เมตร

ไฮไลต์ 2 ท้องฟ้าจำลอง
ท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 35 เมตร

ไฮไลต์ 3 ทอร์นาโดจำลอง
การจำลองการก่อตัวของมวลอากาศที่หมุนวนจนกลายเป็นพายุทอร์นาโดสูง 9 เมตร

ไฮไลต์ 4 ปรากฏการณ์ -30 องศาเซลเซียส
ครั้งแรกในญี่ปุ่น กับการจำลองสภาพอากาศอันหนาวจัดถึง -30 องศาเซลเซียส

Nagoya City Science Museum ผู้ใหญ่ 400 เยน (เฉพาะในส่วนของพิพิธภัณฑ์ บางส่วนอาจจะต้อง
เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) / เปิด 09.30-17.00 น. (โปรดเข้าก่อน 16.30 น.) / หยุดวันจันทร์และวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน / เดิน 5 นาทีจากสถานี Fushimi Sta. (Tsurumai Line หรือ Higashiyama Line) ทางออก 4 /www.ncsm.city.nagoya.jp

3.ไปกินของอร่อย

ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมะบุชิ
ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมะบุชิ มีเอกลักษณ์อยู่ที่การเสิร์ฟมาในชามทรงกลมที่เรียกว่า ฮิตสึ พร้อมกับการหั่นซอยเนื้อปลาไหลให้เป็นชิ้นย่อยๆ ปลาไหลที่ย่างร้อนๆ บนถ่านไม้ ละเลงด้วยซอสหวานมันสูตรลับ ย่างให้ติดผิวเกรียมนิดๆ กระตุ้นกลิ่นรสน่าทาน ขอแนะนำร้าน Atsuta Horaiken Honten ต้นตำรับข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมะบุชิร้านดังที่มีคนมาเข้าแถวยาวเหยียดรอทานตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน

Atsuta Horaiken Honten เปิด 11.30-14.00 และ 16.30-20.30 น. / หยุดวันพุธ / เดิน 7 นาทีจากสถานี Tenma-cho Sta. (Meijo line) ทางออก 4 / www.houraiken.com

ปีกไก่นาโกย่า
เมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่งเมื่อไปร้านอิซากายะในจังหวัดไอจิ กับปีกไก่ที่ทอดได้แห้งกรุบกรอบแบบไม่อมน้ำมัน
หอมกลิ่นพริกไทย รสชาติเข้มข้นแต่แอบเผ็ดเล็กๆ มาแล้วอย่าลืมลองเทคนิคการกินปีกไก่ทอดเฉพาะของ
แต่ละร้าน แบบรูดทีเดียวเนื้อร่อนออกมาทั้งท่อนเลย นอกจากปีกไก่ที่ทอดแห้งๆ แบบนี้แล้ว ยังมีแบบราด
ซอสมิโสะแดงฉ่ำๆ ด้วย

ข้าวปั้นไส้เทมปุระ
ข้าวปั้นห่อด้วยสาหร่ายที่ซุกซ่อนตัวไส้กุ้งเทมปุระเนื้อแน่นไว้ภายใน อร่อยแบบอิ่มหนำได้กำลังดี เมนูนี้เรียกว่าเทนมุสุ (Tenmusu) ดูเหมือนเป็นเมนูง่ายๆ แต่เชื่อไหมว่ามันเป็นของกินที่ดังมากของจังหวัดไอจิ

หมูทอดซอสมิโสะแดง
มิโสะคัตสึ หรือหมูทอดซอสมิโสะแดงเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ความพิเศษอยู่ตรงการนำเอาซอสมิโสะแดงมาใช้เป็นน้ำราดหน้าก่อนเสิร์ฟแทนที่จะเป็นซอสทงคัตสึธรรมดา ขอแนะนำร้าน Misokatsu Yabaton Yabacho Honten มิโสะคัตสึร้านดังที่มีคนแน่นมากทุกวัน กับเมนูต้นตำรับอย่าง Warachi Tonkatsu เนื้อหมูสันนอก
ที่เสิร์ฟมาแบบฉ่ำซอสมิโสะแดงสูตรดั้งเดิม

Misokatsu Yabaton Yabacho Hontenเปิด 11.00-21.00 น. / ไม่มีวันหยุด / เดิน 5 นาทีจากสถานี Yabacho (Meijo Line) ทางออก 5 / www.english.yabaton.com

คิชิเมนน่าซู้ด
อีกหนึ่งสไตล์ของอาหารเส้นของชาวไอจิ ที่ไม่เหมือนที่ไหน กับเอกลักษณ์ของเส้นอุด้งที่เรียกว่าคิชิเมน (Kishimen) ตัวเส้นแบนๆ นุ่มลื่น ทว่าเวลาเคี้ยวจะมีความเหนียวหนุบแบบเดียวกับเส้นอุด้งทั่วไป
ถือเป็นเมนูเก่าแก่ประจำท้องถิ่นที่ทานกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

อุด้งหม้อดิน
อีกหนึ่งเมนูประจำจังหวัดไอจิที่รับประกันความน่ากินแบบสุดๆ มิโสะนิโคะมิอุด้ง (Miso Nikomi Udon)
เมนูอุด้งเส้นเหนียวหนุบที่จะมาพร้อมน้ำซุปมิโสะแดงรสเข้มข้นที่เผ็ดแต่อร่อย เพิ่มออพชั่นความน่ากินในชามด้วยเนื้อไก่ เห็ดชิตาเกะ และไข่ดิบที่ตอกหน้าปิดท้ายมาในชามหม้อดินเดือดระอุ

วัฒนธรรมมอร์นิ่ง
วัฒนธรรมมอร์นิ่งของชาวจังหวัดไอจิคือการเสิร์ฟขนมปังและไข่ต้มแถมไปให้กับลูกค้าที่สั่งเครื่องดื่มในคาเฟ่ยามเช้า บริการเล็กๆ ที่ทำให้ยามเช้าของเมืองนี้น่ารักและมีสีสัน

เอบิฟราย
เอบิฟรายหรือกุ้งตัวยักษ์ชุบเกล็ดขนมปังทอดตัวยาวกว่าหนึ่งไม้บรรทัด ความอร่อยอยู่ตรงเนื้อแป้งกรุบกรอบกับเนื้อกุ้งแน่นๆ อร่อยจนแทบกรี๊ด

ไต้หวันราเมน
จากเมนูเล็กๆ ในร้านอาหารจีน กลับกลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นเมนูเฉพาะในแบบของชาวจังหวัดไอจิที่เผ็ดร้อนที่สุดในญี่ปุ่น น้ำซุปสีแดงแจ๋ที่เต็มไปด้วยพริกเผา ในขณะที่รสชาติก็ยังคงกลมกล่อม
แบบราเมนสไตล์ญี่ปุ่น ทานคู่กับหมูสับผัดน้ำมันรสเข้มข้นที่ใส่มาเต็มชาม

โฮสะ ซาเรียว
หนึ่งในร้านอาหารที่เราภูมิใจนำเสนอ เพราะร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ในการทำอาหารด้วยการเลือกใช้แต่วัตถุดิบ
ที่หาได้จากในจังหวัดไอจิเท่านั้น (ยกเว้นบางวัตถุดิบที่ไม่มี) กับเมนูญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ต้องปรุงอย่างพิถีพิถันพร้อมๆ กับการให้ความสำคัญกับความเป็นศิลปะ ทั้งในแง่ของรสชาติและการจัดแต่งหน้าตาอาหารให้น่าทานอย่างมีองค์ประกอบศิลป์และความหมายดีๆ ที่แฝงเร้นเอาไว้ นี่คือมื้ออาหารที่ไม่ใช่แค่จะทำให้คุณอิ่มอร่อย
แต่ยังอิ่มเอมถึงจิตใจ

เบื้องหลังความอร่อย มาจากฝีมือการรังสรรค์ของสุดยอดเชฟมัตสึโมโต้ เชฟที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากทางจังหวัดไอจิว่าเป็นเชฟที่นอกจากจะมีฝีมือเยี่ยมแล้ว ยังมีไอเดียเจ๋งในการปรุงอาหารที่เน้นการใช้วัตถุดิบที่มาจากจังหวัดไอจิเป็นสำคัญ

ตัวอย่างเมนูเด็ด

ออเดิร์ฟปูรสเปรี้ยวหวาน เนื้อปูวาตาริที่มาจากอ่าวมิกาวะ แหล่งวัตถุดิบขึ้นชื่อของเมืองที่เต็มไปด้วยกุ้งและปู ผสมกับอุจิโกะหรือไข่ปูที่คัดเอาแต่ส่วนของไข่ที่อยู่เนื้อใน เพราะต้องการไข่ปูอ่อนๆ ที่เนื้อนุ่มหวานหอมจริงๆ

เมนูปลาดิบที่มีทีเด็ดอยู่ตรงเนื้อปลาสดๆ ของชิเมะซาบะที่ได้มาจากท่าเรือโทโยฮามะ ท่าเรือที่จับปลาได้มากที่สุดในจังหวัดไอจิ รับประกันได้ถึงความสด พร้อมเครื่องเคียงที่น่ากินอย่างสาหร่ายเนื้อนุ่มที่ถูกอัดเป็นก้อนๆ จิ้มกินกับอาวะโชวยุ หรือโชวยุที่ปรุงจากไข่ขาวได้รสชาติแปลกลิ้น ทานแล้วสดชื่นมาก

ตบท้ายด้วยเมนูซุปสุดอร่อยที่เน้นความกลมกล่อมแบบรสชาติดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทานคู่กับชินโจะ (เนื้อปลา
ฮาโมะบดกับยามะอิโมะ ไข่ขาว และเอ็นหอย) ดอกสึรุมุราซากิ และกระเจี๊ยบของไอจิ

Hosa-saryo
เปิด 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. / ไม่ระบุวันหยุดที่แน่นอน / เดิน 7 นาทีจากสถานี Ikeshita Sta. (Higashiyama Line) ทางออก 1 / www.facebook.com/HoshiyaTousai

4.ไปงานเทศกาล

ดอกไม้ไฟของคนไอจิ
และหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่มากแห่งหนึ่งในจังหวัดไอจิ งานเทศกาลดอกไม้ไฟริมน้ำที่เมืองโอกาซากิ ภาพชาวญี่ปุ่นที่มีให้เห็นตั้งแต่วัยเด็กไปถึงวัชรา ซึ่งกว่าครึ่งจะมาในชุดยูกาตะ พร้อมๆ กับการถือพัดสะบัดแกว่งไกว นั่งจิบเบียร์ทานเบนโตะ พร้อมหน้าครอบครัวเพื่อนฝูง นอกจากดอกไม้ไฟสวยๆ แล้ว
ภาพบรรยากาศที่น่ารักแบบนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าชม

World Cosplay Summit
จากความชอบของเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นกลุ่มเล็กๆ วันนี้มันได้กลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมสุดป๊อปของวัยรุ่นทั่วโลกไปแล้ว ถ้าไม่เชื่อให้มางาน World Cosplay Summit งานรวมพลคนคอสเพลย์โลกที่นาโกย่า กับกิจกรรมสนุกๆ ตลอด 2 วัน ที่มีทั้งการประกวดคอสเพลย์ประจำปี และการเดินพาเหรดไปรอบเมืองของเหล่า
คอสเพลย์จากทั่วโลกในชุดจัดเต็ม

5.ไปเที่ยวนอกเมืองนาโกย่า

ปราสาทอินุยามะ
แม้จะดูเป็นปราสาทที่สมถะและเรียบง่าย แต่เบื้องหลังของปราสาทเก่าหลังนี้ไม่ธรรมดา เพราะ ถือเป็นหนึ่งในปราสาท 12 แห่งในญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพดั้งเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ยุคก่อนเอโดะเอาไว้ได้ครบถ้วน ปราสาท
อินุยามะสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1537

แวะเดินเล่น
ระหว่างทางไปปราสาทอินุยามะ ลองแวะมาเดินเล่นเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองเก่าบนถนนฮงมาจิโดริ
กับบรรยากาศของบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่เล็กๆ ที่น่ารัก
สไตล์เรโทร

Inuyama Castleผู้ใหญ่ 500 เยน / เปิด 09.00-16.30 น. / หยุดช่วงปีใหม่ / เดิน 15 นาทีจากสถานี Inuyama Sta. (Meitetsu Line) ทางออก West Exit /inuyama-castle.jp

โรงงานฮัตโจมิโสะ
ฮัตโจมิโสะ เครื่องปรุงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวไอจิ จุดเด่นอยู่ตรงรสชาติความเผ็ดร้อน หวานหอม และเข้มข้นในแบบเฉพาะตัว ชาวไอจินำฮัตโจมิโสะมาใช้เป็นเครื่องปรุงที่ต่อยอดความอร่อยไปสู่เมนูเฉพาะ
ในแบบไอจิอีกมากมายหลายเมนู อยากรู้ว่าเบื้องหลังความอร่อยเกิดขึ้นได้ยังไง ต้องมาที่นี่ คะคุคิว
ฮัตโจมิโสะ โรงงานผลิตฮัตโจมิโสะที่คุณสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ฟรี แถมยังมีให้ชิมฮัตโจมิโสะได้ฟรีเช่นกัน

ไปแล้วอย่าลืม ซอฟท์ครีมมิโสะและพุดดิ้งมิโสะ เมนูของหวานขายดีที่มีส่วนผสมของฮัตโจมิโสะ

Kakukyu Hatcho Miso เข้าชมฟรี / เปิด 09.00-17.00 น.(ร้านขายสินค้า) และเปิด 09.00-16.00 น.
(เข้าชมโรงงาน) / หยุดช่วงปีใหม่ / เดิน 3 นาทีจากสถานี Naka Okazaki Sta. (Aichi Kanjyo Line) ทางออก 1 / www.8miso.co.jp/english.html

จบทริปการเดินทางสนุกๆ สไตล์ดาโกะไทยแล้ว เรามาทำความรูู้จักเมืองนาโกย่าด้วยวีดีโอ
และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดไอจิกันค่ะ

ตอนแรกของการทำความรู้จักกัน