“ภูมิใจที่ได้เห็น รอยยิ้มของลูกค้า ที่ทานอาหารของผม
แล้วเขากลับมาทานอาหารของผมอีกครั้ง”
ชายร่างใหญ่จากเกียวโต เมืองกรุงเก่า ผู้เริ่มต้นจากความชื่นชอบในการทานอาหารอร่อย และได้เก็บประสบการณ์เล็กผสมน้อยจากการทำครัวในค่ายซูโม่อยู่นานนับปี จนสามารถหันหลังให้โดเฮียวและก้าวสู่การสะบัดกระทะเหล็กในห้องครัว เพื่อเสิร์ฟอาหาร “อร่อย” ให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มภาคภูมิ
การเริ่มต้นทำในสิ่งที่เรารัก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ไม่มีคำว่า “สาย” ?
ผมเคยเป็นนักซูโม่เมื่อตั้งแต่อายุ 18 ปีครับ ตอนนั้นผมเป็นคนทำ *จังโกะนาเบะให้พวกเพื่อนๆ ในค่ายซูโม่กินกัน ซึ่งนั่นคือการเป็นพ่อครัวครั้งแรกของผม หลังจากที่รู้สึกเต็มอิ่มกับอาชีพนักซูโม่แล้ว ก็หันมาเป็นพ่อครัวแบบเต็มตัว ตอนนั้นสักประมาณอายุ 27 ปีเห็นจะได้ คงเป็นเพราะส่วนตัวเป็นคนชอบกินของอร่อยด้วย และตอนที่อยู่ในครัวทำจังโกะนาเบะก็รู้สึกว่าเป็นงานที่สนุกดี เลยคิดว่าอาชีพนี้แหละน่าจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ
หากฝึกฝน พัฒนาตนให้มีความรู้ความสามารถ จะยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับตนเองมากขึ้น ?
ก่อนหน้าที่ผมจะมาไทย ผมเป็นพ่อครัวอยู่ที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต พอผมลาออกจากร้านนั้น ก็มีคนมาชวนให้ผมไปเป็นพ่อครัวให้เขา ตอนนั้นผมยังไม่เคยมาไทยมาก่อน แทบจะไม่รู้จักไทยสักเท่าไหร่ เลยตัดสินใจมาเที่ยวไทยดู ก็พบว่าที่นี่ก็น่าอยู่ไม่ใช่น้อย กรุงเทพฯมีคอนโดขึ้นอยู่ทั่ว มีบีทีเอส มีรถยนต์ คือมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอที่ให้ผมใช้ชีวิตอยู่ได้ ผมจึงตัดสินใจมาเป็นพ่อครัวที่ประเทศไทยครับ
โอโมเทะนาชิ หรือหัวใจของการบริการ คือสิ่งสำคัญที่สามารถมัดใจลูกค้าได้ ?
เราตั้งใจให้เป็นร้านสำหรับครอบครัว หรือคู่รักมาเดทกัน โดยมอบความอร่อยในแบบโยโชคุ หรืออาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่น รวมทั้งมีอาหารญี่ปุ่นบ้างเป็นบางเมนูครับ นอกจากนี้ ถ้าลูกค้าต้องการทานอาหารที่ไม่มีอยู่ในเมนูของร้าน หากในครัวเรามีวัตถุดิบพร้อม เราก็ยินดีทำอาหารนอกเมนูให้ โดยผมจะประยุกต์เอาวัตถุดิบต่างๆ มาปรุงจนเป็นสูตรออริจินอลของผมเอง มาแต่ละครั้งอาจได้ทานรสชาติต่างกันเลยก็ได้ ซึ่งนั้นถือเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของร้าน Yu-yu Dining Sougetsu แห่งนี้ครับ
การร่วมกันทำงานให้ราบรื่น สิ่งสำคัญต้องสื่อสารกันให้เข้าใจและปรุงปรับพัฒนาไปพร้อมกัน ?
คนไทยเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วยกันมา มักนิสัยที่จะเป็นจุดอ่อนเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ขี้อาย โดยเฉพาะเวลามีปัญหาหรือไม่รู้ไม่แน่ใจอะไรก็ไม่กล้าเข้ามาถามหรือบอกกันตรงๆ ตัวผมเองเป็นคนช่างถามมาตั้งแต่เด็ก เวลาเรียนพอไม่เข้าใจตรงไหนก็จะถามอาจารย์จนเข้าใจ เพราะถ้าคิดเองเออเอง มันก็อาจจะผิดก็ได้ ผมคิดว่าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การทำงานด้วยกันเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนั้นเวลาตอนประชุมทีมงาน เราจะคอยบอกสิ่งที่ดีและสิ่งที่ต้องปรับปรุงกันอยู่เสมอ เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาซึ่งกันและกัน
การมอบความสุขให้กับผู้อื่น ตัวผู้ให้นั้น ย่อมได้รับความสุขกลับคืนมาเช่นกัน ?
ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบของอร่อยกันใช่มั้ยล่ะครับ ผมเองก็เช่นกัน กินของอร่อยๆ แล้วมันรู้สึกมีความสุข และสิ่งที่ทำให้ผมจะได้กินอาหารอร่อยแน่ๆ คือตัวผมต้องทำอาหารให้อร่อยนั่นเองครับ เวลาผมจะคิดค้นเมนูใหม่ขึ้นมาก็จะไปศึกษาหาข้อมูลของเมนูของทุกชาติที่คล้ายกับอาหารที่ตั้งใจจะทำ ซึ่งทำให้ผมได้เห็นทั้งเมนูแปลกๆ หรือเมนูที่คล้ายๆ กันมากกมายเต็มไปหมด มันเป็นความสนุกอย่างหนึ่งในชีวิตของผมเลย และอีกสิ่งหนึ่งคือ การได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้าที่ได้ทานอาหารจากฝีมือผม แล้วพวกเขากลับมาทานอีกเป็นครั้งที่ 2, 3, 4 ฯลฯ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจมากๆ ครับ
ชื่อ Osaki Tatashi อายุ 42 ปี
ตำแหน่ง Head Chief & Manager
ที่ตั้ง สุขุมวิท ซอย 49/2
โทร.0-2262-0796