เวลาไปงานสัปดาห์หนังสือ ทีไร ห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที ยิ่งเห็นหนังสือของนักเขียนที่ชอบ สำนักพิมพ์ที่ดีไซน์ปกออกมาแล้วถูกจริตกับเราก็ชวนให้หลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากหนังสือจะทำให้เราละสายตาจากสมาร์ทโฟนมาได้แล้ว มันยังทำหน้าที่ให้ความรู้ ทำให้เราได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ช่วยส่งต่อแรงบันดาลใจจากคนเขียนมายังคนอ่าน และยังช่วยเสริมสร้างความบันเทิงให้กับชีวิตเราในอีกแง่มุมนึงด้วย Book Fair
.
และสำหรับงานสัปดาหหนังสือคราวนี้ เราพบกับหนังสือ 7 เล่มที่ทำให้คนที่หลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่นใจละลาย และมีเนื้อหาในเล่มที่หลากหลาย ทั้งเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ สารคดีท่องเที่ยว นิยาย ชีวะประวัติ อ่านแล้วอิ่มอุ่นใจครบถ้วนทางความรู้สึก และด้วยปกสีสันสดใส ก็อยากจะได้มาเรียงสวยๆ ไว้บนชั้นหนังสือที่บ้านเสียเหลือเกิน
Book Fair
หนังสือ Nagano Little Holiday
ผู้เขียน : ปาลิดา พิมพะกร
สำนักพิมพ์ : ซันเดย์ อาฟเตอร์นูน
H 12 โซน Plenary Hall
.
หนังสือที่จะมาชวนให้ออกเดินทางลำดับล่าสุดของ ปาลิดา พิมพะกร ที่จะพาคุณผู้อ่านแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว นั่นคือที่จ.นากาโน่ จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “หลังคาญี่ปุ่น” ห้อมล้อมด้วยภูเขาสูง และมีทัศนียภาพทางธรรมชาติแสนงดงามในทุกฤดู ไม่เพียงเท่านั้นในแต่ละเมืองของจังหวัดนากาโน่ล้วนมีความสำคัญหรือความโดดเด่นที่ต่างกันไป ทั้งทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนอาหารการกิน
.
แม้แต่ละเมืองจะขนาดกะทัดรัดแต่ก็มีทุกอย่างครบ การันตีความน่ารักและน่าเที่ยวโดยการเดินทางไปเยี่ยมเยือนบ้านเกิดของเจ้าแม่ลายจุด ยาโยอิ คุซามะ ไปสัมผัสกับห้องเรียนตู้รถไฟในเรื่องโต๊ะโตะจัง เที่ยวฟาร์มวาซาบิขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ไปสัมผัสความหนาวเย็นที่เมืองรีสอร์ทสุดฮิตในหน้าหนาวที่คารุอิซาว่า และขาดไม่ได้กับการมีประสบการณ์ตะลุยชิมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของจ.นากาโน่ ฯลฯ และนี่เป็นเพียงบางส่วนของงเนื้อหาในเล่มนี้ ที่จะทำให้คุณผู้อ่านได้สัมผัสความน่าเที่ยว และน่าอยู่ของจ.นากาโน่ เพราะติดอันดับ 1 ของจังหวัดที่คนญี่ปุ่นอยากย้ายมาอยู่มากที่สุด จากการสำรวจของ Inaka Kurashi no Hon นิตยสารเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างจังหวัด ติดต่อกันถึง 12 ปีซ้อนเลยนะ
หนังสือ : ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น
ผู้เขียน : โตมร ศุขปรีชา
สำนักพิมพ์ : Salmon Book
Y 12 โซน HALL A
.
สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังสือของพี่หนุ่ม – โตมร ศุขปรีชาอย่าพลาดการอ่านหนังสือ ‘ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น’ เล่มนี้อย่างเด็ดขาด เพราะผู้เขียนเริ่มเขียนจากจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า ‘ความเป็นญี่ปุ่น’ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร เอกลักษณ์ของผู้คน วัฒนธรรม รวมถึงเสน่ห์ในบ้านเมืองของญี่ปุ่นเกิดขึ้นมาจากสิ่งไหน สู่การเดินทางค้นหาคำตอบที่กลายเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ไปพร้อมกัน
.
สำหรับสารคดีกึ่งนิยายของโตมรจะพาคุณผู้อ่านออกไปสำรวจความเป็นญี่ปุ่น ผ่านสถานที่อันคุ้นชิน เหตุการณ์ที่คุ้นตา ด้วยการพาตัวเองไปพูดคุยกับ ‘คนใน’ ที่นอกจากจะทำให้การค้นหาตัวตนของญี่ปุ่นเต็มไปด้วยปริศนาแล้ว ยังนำพาไปสู่เรื่องเล่าในหน้าประวัติศาสตร์ เหตุการณ์สุดลึกลับที่ยากจะคาดเดา และทำให้การเข้าถึงจิตวิญญาณของความเป็นญี่ปุ่นนั้นตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม!
.
‘ย่องเบาเข้าญี่ปุ่น’ ไม่ใช่หนังสือเล่มล่าสุดที่โตมรเพิ่งเขียนเสร็จ แต่เคยถูกตีพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่งกับสำนักพิมพ์ GM BOOKS เมื่อปี พ.ศ. 2551 ก่อนจะถูกนำมาปัดฝุ่นกันอีกครั้ง ซึ่งเราต่างมีความเชื่อว่าการกลับไปอ่านงานของโตมรในรอบสิบปีที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งที่น่าค้นหาและสนุกสนานไม่แพ้กัน
หนังสือ : ‘B SIDE’
ผู้เขียน : พีรพิชญ์ ฉั่วสมบูรณ์ และ ธัญวัฒน์ อิพภูดม
สำนักพิมพ์ : Salmon Book
Y 12 โซน HALL A
.
ช่วงเวลานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก BNK48 อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหน เป็นต้องได้ยิน ได้เห็นผลงานของไอดอลกลุ่มนี้ เพลงของพวกเธอถูกเปิดไปทั่วทุกที่ เหล่าสมาชิกมีผลงานไม่ว่างเว้น เรียกได้ว่าในแต่ละวัน เราต้องได้เสพเรื่องราวเกี่ยวกับ BNK48 อย่างน้อยวันละเรื่อง และนั่นทำให้เราเกิดคำถาม ว่าก่อนที่ BNK48 จะเข้ามากุมหัวใจใครหลายคน วงไอดอลวงนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร และไอดอลที่ว่านั้นคืออะไรกันแน่
.
หนังสือ ‘B SIDE’ เล่มนี้ จึงเสมือนเป็นบันทึกการติดตาม BNK48 วงไอดอลผู้สร้างปรากฏการณ์แห่งยุคสมัย ของสองนักเขียนผู้ชื่นชอบไอดอลไม่แพ้ใครอย่าง ‘พีรพิชญ์ ฉั่วสมบูรณ์’ เจ้าของผลงานการเขียน 12—4—48 และ ‘ธัญวัฒน์ อิพภูดม’ กองบรรณาธิการประจำสำนักคอนเทนต์ออนไลน์ กับภารกิจเรียนรู้เรื่องราวรอบจักรวาลไอดอล ด้วยการตามติดเข้าไปแฝงตัวหลังการเปิดตัว หลังเวที หลังห้องประชุม หลังห้องซ้อม หลังแถวงานจับมือ เพื่อไขความลับว่าการมีอยู่ของไอดอลในยุคนี้ต้องเสี่ยงทายหรือไม่ ไปติดตามอ่านเรื่องราวของพวกเธอกันได้จากหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ
หนังสือ : โดรายากิ ขนมนี้ทำด้วยใจ
ผู้แต่ง : Durian Sukegawa
ผู้แปล : ธีราภา ธีรรัตนสถิต
สำนักพิมพ์ : Maxx Publishing
M 56 โซน C1
.
แค่เห็นปก ก็อยากเปิดอ่านแล้วสำหรับนิยายญี่ปุ่นเล่มนี้ ที่ในเล่มได้ทำการถ่ายทอดเรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก และความโดดเดี่ยวในสังคมของญี่ปุ่น หนังสือเล่าเรื่องของเซ็นทาโร่ผู้มีความลับปกปิดอยู่ เขาใช้ชีวิตในแต่ละวันกับการง่วนอยู่ในร้านโดรายากิอย่างคนที่สิ้นหวัง แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับหญิงชราที่ชื่อโทคุเอะ ผู้มีปัญหานิ้วหงิกหงอที่ปรากฏจากโรคในอดีต โทคุเอะทำไส้ถั่วแดงได้ออกมาเอร็ดอร่อย แบบที่เซนทาโร่ก็ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน และต่อมาหญิงชราก็ได้สอนอะไรต่อมิอะไรให้กับเขามากมาย แต่แล้วความสัมพันธ์ก็เริ่มสั่นคลอนเมื่อความกดดันทางสังคมทำให้โทคุเอะถูกเปิดเผยความลับและส่งผลตามมา
.
จุดเด่นที่น่าสนใจของเรื่องราวคือมีการฉายภาพวัฒนธรรรมอาหาร และวิถีปฏิบัติของชาวญี่ปุ่น ซึ่งตัวละครนั้นตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมไส้ถั่วแดงสำหรับทำโดรายากิ โดยเซ็นทาโร่จะคอยช่วยโทะคุเอะในการทำงานที่ค่อนข้างต้องใช้แรง เนื่องจากที่มือของโทะคุเอะมีแผลค่อนข้างใหญ่ทำให้ใช้มือได้ไม่สะดวก ระหว่างการทำไส้ถั่วแดง ทั้งสองคนก็ได้สนทนาถึงเรื่องต่างๆ เซ็นทาโร่ที่เคยปิดตัวเองจากเรื่องภายนอกเพราะเคยมีอดีตที่ไม่ค่อยดีค่อยๆ เริ่มเปิดใจให้กับโทะคุเอะเนื่องจากโทะคุเอะให้ความสบายใจและให้กำลังใจแก่เซ็นทาโร่อยู่ตลอดเวลา
.
นอกจากนั้นหนังสือเล่มนี้อ่านแล้วจะทำให้คุณเข้าใจลึกซึ้ง กับการแบกรับความกดดัน และมิตรภาพที่จะทำให้คุณประทับใจ อบอุ่น เข้าใจเหตุผลของการมีชีวิต และได้ผลตอบรับดีจนเนื้อเรื่องในนิยายถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ดราม่าสุดประทับใจอย่างแท้จริง
อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่
ผู้แต่ง : เคน โมงิ
ผู้แปล / เรียบเรียง : วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
สำนักพิมพ์ : Move Publishing
M 56 โซน C1
.
อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่เล่มนี้ จะทำให้ผู้อ่านได้ตามหาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของตัวเองว่าคืออะไร หลายคนอาจจะนึกไม่ออก ให้เราลองนึกถึงเหตุผลที่เราตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้านั้นเพราะอะไร ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าทุกคนย่อมมีเหตุผลของการมีชีวิตซ่อนอยู่ในตัวเอง และเรียกความเชื่อนี้ว่าว่าอิคิไก ไล่ตั้งแต่ความสุขเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การได้ลิ้มรสกาแฟหอมอร่อยกับแสงแดดอุ่นๆ ตอนเช้า มีหนังสือดีๆ ไว้อ่าน ได้ทานข้าวกับครอบครัว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่เราตื่นนอนในทุกๆ วัน เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นอิคิไก ก็คือปรัญชาญี่ปุ่นที่ถูกแฝงอยู่และถูกหลอมรวมมานาน ไม่ได้มีเพียงเป้าหมายอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงคุณค่าในตัว การสร้างความสุขในสิ่งที่ทำ การมีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจแจ่มใส และจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นนั่นเอง
.
ทุกวันนี้คนญี่ปุ่นกำลังพูดถึง อิคิไกว่าเป็นเหตุผลของการตื่นนอนในตอนเช้า และเป็นสิ่งที่รักษาความกระตือรือร้นของชีวิตไว้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำความสะอาดในรถไฟชินคันเซ็น คุณแม่ลูกอ่อน หรือเชฟซูชิระดับมิชลิน หลักอิคิไกนี้ต่างก็เป็นหัวใจสำหรับทุกๆ สิ่งที่พวกเขาทำ มันแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน และในโลกของการทำงาน ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ไปจนถึงในงานอดิเรกที่พวกเขาถูกปลูกฝังไว้อย่างละเอียดลออ อ่านแล้วดีต่อใจ รวมทั้งตับ ไต และไส้พุง มีไว้ในครอบครองกันสักเล่มเถอะค่ะ
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ
ผู้แต่ง : ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ผู้แปล : กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
สำนักพิมพ์ : น้ำพุสำนักพิมพ์
E05 โซน Plenary Hall
.
หนังสือปกสวยอีกเล่มของงานหนังสือปีนี้ เป็นผลงานชิ้นโบแดงของฮิงาชิโนะ เคโงะที่ทำยอดขายทั่วโลกกว่า 12 ล้านเล่ม และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจีนมาแล้วด้วย
.
เนื้อเรื่องเล่าถึงหัวขโมยสามคนก่อเหตุกลางดึก และเข้าไปซ่อนตัวในร้านชำร้าง แต่แล้วก็มีจดหมายลึกลับถูกสอดเข้ามา ใครบางคนเขียนมาเล่าปัญหาชีวิต และขอคำแนะนำจากคุณนามิยะเจ้าของร้าน หัวขโมยทั้งสามเลยนึกสนุกเขียนตอบเสียเอง แต่จู่ ๆ ก็มีจดหมายฉบับใหม่โผล่มา แถมยังถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน! ดูเหมือนว่าร้านชำแห่งนี้จะมีกลไกบางอย่างทำให้พวกเขาติดต่อกับคนในอีกยุคสมัยได้ หรือว่าปาฏิหาริย์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง และผู้ที่กุมความลับทั้งหมดก็คือเจ้าของร้าน แต่ปัญหาคือเขาจากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้วน่ะสิ!!! เนื้อเรื่องย่อยังสนุกขนาดนี้ ถ้าอ่านตั้งแต่หน้าแรกจวบจนหน้าสุดท้าย จะสนุกขนาดไหนกันนะ
หัวใจเซนเซ สร้างคนแบบญี่ปุ่น
ผู้เขียน : เกตุวดี Marumura
สำนักพิมพ์ : มติชน
V 10 โซน Plaza
.
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นในยุคนี้ ใครไม่เคยผ่านตาผลงานของคุณเกตุวดี Marumura ต้องตกยุคแน่ๆ เลยค่ะ และล่าสุดคุณเกตุวดีได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดคนญุี่ปุ่นถึงทุ่มเททำเพื่อผู้อื่น เหตุใดคนญี่ปุ่นถึงมีวินัยสูง เหตุใดคนญี่ปุ่นถึงอดทน เธอค้นพบคำตอบเหล่านี้จากการได้คลุกคลี และถูกเคี่ยวเข็ญของเซนเซชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ไล่ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างการเขียนจดหมายขอบคุณ และการไปทัศนศึกษา หรือเรื่องท้าทายอย่างการนำเสนองาน ต่อหน้าประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ อ่านกุศโลบายที่อยู่เบื้องหลังทุกคาบเรียน และสารพัดข้อคิดที่ซ่อนอยู่ในทุกกิจกรรม ก็จะรู้ว่าคนญี่ปุ่นสร้างคนญี่ปุ่นอย่างไรทำไมประเทศเขาถึงเจริญ นำมาสู่คำถามที่ลึกกว่านั้นอีก นั่นก็คือคนญี่ปุ่นสร้างคนญี่ปุ่นอย่างไร คำตอบเหล่านั้นถูกซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมดแล้วค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นหนังสือ 7 เล่ม ที่ทำให้คนที่สนใจประเทศญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้ออกเดินทางทางตัวหนังสือ และสนุกสนานกับการอ่านอย่างแน่นอน
.
และในที่สุดแล้ว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนุกสนานกับการออกเดินทางผ่านตัวหนังสือ โดยการเริ่มพลิกอ่านตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้าย หากคุณเป็นคนที่ยังอยากหลงใหลในกลิ่นหมึกพิมพ์ ยังไงก็อยากให้สนับสนุนการอ่าน ไม่ว่าจากในงานสัปดาห์หนังสือ หรือในร้านหนังสือก็ตามนะคะBook Fair