Asakusa คนเดียวก็เที่ยวได้!
หากพูดถึงโตเกียวแล้ว คงมีหลายสถานที่ๆ ผุดขึ้นมาในใจ แต่เชื่อว่าหนึ่งในสถานที่นั้นจะต้องมี Asakusa อยู่ในใจของทุกๆ คนแน่ แต่บางคนอาจจะไม่รู้ว่านอกจากมาถ่ายรูปกับโคมแดงแล้วมีอะไรน่าสนใจ มีอะไรน่าเที่ยวบ้างกันแน่ วันนี้เลยจะมาพาไปเที่ยวทั้งในและนอกวัดเซ็นโซจิกัน ♥
เริ่มด้วยที่แรกกับสัญลักษณ์ของอาซากุสะอย่างคามินาริมงหรือที่เรียกกันว่าโคมแดงหน้าวัดเซ็นโซจิที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปเพื่อเช็คอินที่นี่!
🚆 วิธีการเดินทางมาก็ง๊ายง่ายแค่ขึ้น Tokyo Metro Ginza Line มาลงที่สถานีอาซากุสะ แล้วเดินต่อมาอีกนิดก็เจอเลย!
♥แอบกระซิบนิดนึงว่าเหล่าผู้ชายที่คอยลากรถม้านั่นเป็นอีกหนึ่งอาหารตาที่ไม่ควรพลาด อิอิ♥
เมื่อเดินผ่านคามินาริมงเข้ามาด้านในแล้ว จะเจอถนนนากามิเซะที่ยาวกว่า 250 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าถึง 89 ร้าน มีทั้งร้านของฝากและร้านของกิน ซึ่งของกินที่เมื่อมาถึงถนนนากามิเซะ อาซากุสะแล้วไม่ทานไม่ได้เลย คือขนนอาเกะมันจู หรือขนมมันจูชุบแป้งทอดนั่นเอง มีไส้ให้เลือกตั้งแต่ถั่วแดง ชาเขียว มัน ฟักทอง และอื่นๆ เยอะจนเลือกทานไม่ถูกกันไปเลย
ชื่อร้าน : 浅草九重 Asakusa Kokonoe
เวลาทำการ : 9.30 – 19.00 น.
ราคา: 120 – 170 เยน
พิกัด :
เดินเลยร้านขายอาเกะมันจูมาอีกนิด ก็จะเจอกับ Hozomon จุดที่จะมีโคมแดงให้ได้ถ่ายรูปกันอีก หากโคมแดงด้านหน้าวัดคนเยอะ ก็เดินเลยเข้ามาถ่ายตรงนี้ได้เหมือนกันนะจ๊ะ
พอเดินผ่าน Hozomon เข้ามาก็จะเจอกับไฮไลท์อีกอย่างของการมาอาซากุสะหรือการมาที่วัดเซ็นโซจิ นั่นคือการมาที่กระถางธูปแล้วกวักให้ควันธูปเข้าหาตัวเอง ว่ากันว่าจะนำความโชคดีเข้ามาในชีวิตเราด้วยนะ ถัดไปอีกนิดก็จะเจอตัววัดเซ็นโซจิ ซึ่งเป็นวัดที่มีเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ หากมาที่นี่แล้วก็แวะเข้าไปขอพรกันได้
หลังจากเข้าไปสักการะบูชาขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของการเติมพลังให้ตัวเองกับร้านเมลอนปังชื่อดังที่เปิดมากว่า 72 ปี บอกได้เลยว่ารสชาติอร่อยสมคำร่ำลือ ทั้งหอม ทั้งกรอบนอกนุ่มใน ไหนจะขนาดที่ใหญ่จนผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราๆ นั้นอาจจะกินกันแทบไม่หมด บอกได้คำเดียวว่า คุ้มสุดๆ ฟินกระจาย!
ชื่อร้าน : 花月堂 Kagetsudo
เวลาทำการ : 9.00 เป็นต้นไป จนกว่าจะขายหมด
ราคา: 200 เยน
พิกัด :
เดินถัดมาจากร้านขนมปังเมล่อนเล็กน้อย จะเริ่มเห็นว่าตามทางจะเริ่มมีร้านขายของมีขนมและอาหารที่ขายในงานวัดของญี่ปุ่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โอโคโนมิยากิ กล้วยชุบช็อกโกแลต หรือจะเป็นลูกอมโบราณ ก็มีให้เลือกทานกันได้จนอิ่มเลยล่ะ
เดินรอบวัดเซ็นโซจิจนหน่ำใจกันไปแล้ว เดินออกมาจากวัดเล็กน้อยจะเจอกับสะพานสีแดงข้ามแม่น้ำสุมิดะที่ชื่อว่า อาซุมะบาชิ ด้านซ้ายของสะพานจะเห็นเรือที่มีกระจกปิดอยู่ นั่นไม่ใช่เรือดำน้ำ แต่เป็นเรือล่องแม่น้ำสุมิดะให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวที่สวยงามของ 2 ฝั่งแม่น้ำต่างหาก ซึ่งช่วงที่คนนิยมมานั่งเรือลำนี้กันนั้น จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ 2 ฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่แข่งกันบานอย่างสวยงาม
ข้อมูลเพิ่มเติมของเรือล่องแม่น้ำสุมิดะ: www.suijobus.co.jp/en/
ฝั่งตรงข้ามของจุดขึ้นเรือล่องแม่น้ำสุมิดะนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ นักท่องเที่ยวทุกคนจะมาถ่ายภาพเซลฟี่กันที่นี่ โดยมีฉากหลังเป็นโตเกียว สกายทรี และตึกรูปฟองเบียร์ ที่ทำการของเบียร์อาซาฮีนั่นเอง
นอกจากสถานที่ๆ แนะนำกันไปในวันนี้แล้ว ที่อาซากุสะยังมีสถานที่น่าสนใจอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาซากุสะ ฮานายะชิกิ สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น หรือ อาซากุสะ จิไดยะ ร้านที่นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น การชงชา การใส่ชุดกิโมโน หรือการทำโคมไฟได้ด้วย แค่อาซากุสะที่เดียวก็มีที่ท่องเที่ยวน่าไปเยอะมาก จนตอนนี้เราเองก็รอวันที่จะได้กลับไปเดินในสวนสุมิดะอีกครั้งเช่นกัน