![](https://www.daco-thai.com/wp-content/uploads/2017/03/home-decor-1000x480.jpg)
การชื่นชอบและเคารพในธรรมชาติ เป็นความคิดที่ฝังลึกลงไปใน DNA ของชาวแดนอาทิตย์อุทัยมาช้านานแล้ว พวกเขาได้แสดงออกมาในรูปแบบของการประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน หนึ่งในนั้นแสดงผ่านออกมาทางที่อยู่อาศัย ซึ่งโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากคุณหลงใหลในสไตล์การแต่งบ้านของคนญี่ปุ่น ต้องอย่าพลาดกับ 10 วิธีนี้ที่ทำให้บ้านเข้าถึงความญี๋ปุ่นได้เหมือนคนญี่ปุ่นมาแต่งบ้านให้เองเลย
1.องค์ประกอบของธรรมชาติ
เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับบ้านด้วยต้นไม้ญี่ปุ่น เช่น ต้นบอนไซและไม้ไผ่ จะช่วยให้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างอ่อนโยน หรือถ้าต้นไม้วางดูแล้วไม่เข้ากับบ้าน ก็ลองเปลี่ยนเป็นต้นไม้สีเขียวชนิดอื่นที่ดูเข้ากับสไตล์บ้านโดยรวม อย่าคิดสั้นเอาต้นไม้สีสันจี๊ดจ๊าดมาประดับเชียวล่ะ
2.อ่างอาบน้ำคือสิ่งสำคัญ
ชาวญี่ปุ่นนิยมแช่น้ำอุ่นหลังจากชำระร่างกาย เพราะช่วยคลายปวดเมื่อยและช่วยฟื้นฟูจากอาการล้าหลังการทำงานตลอดทั้งวัน ฉะนั้นอ่างอาบน้ำจึงเป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในห้องอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่นหรือ โอฟุโระ (お風呂) หากผสมความโมเดิร์นเข้ากับกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ให้เป็นห้องน้ำแบบ East meet West ก็จะดูสวยเก๋ทันสมัยขึ้นทันตา
3.ฉากหรือบานประตูเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่น
จุดเด่นอีกสิ่งที่เรามักจะเห็นในบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมคือ โชจิ (障子) หรือประตูไม้บานเลื่อน ในปัจจุบัน ตามบ้านเรือนนิยมใช้ในห้องปูเสื่อทาทามิ เป็นกรอบไม้หนาๆ ปิดทับด้วยกระดาษสีขาวโปร่งแสงแทนกระจก แสงที่ส่องเข้ามาในตัวบ้านจึงดูนวลตา ให้บรรยากาศโรแมนติกที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
4.องค์ประกอบของไม้และไม้ไผ่
เป็นที่รู้กันดีว่า การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีไม้และไม้ไผ่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลัก ไม่ว่าจะเป็นประตู กำแพง ฉากกั้น ฯลฯ ล้วนแต่ทำมาจากไม้ทั้งหมด ไม้ที่นิยม ได้แก่ ไม้เมเปิ้ล, ไม้สนฮิโนกิ, ไม้เฮมล็อก และไม้สนแดง ส่วนไม้ไผ่จะนิยมเล่นกับของตกแต่งบ้าน และนำไปไว้ในจุดต่างๆ ที่ช่วยเสริมให้ดูลงตัวยิ่งขึ้น
5.ทางเข้าสไตล์ญี่ปุ่น
เก็นคัง (玄関) หรือส่วนทางเข้าบ้าน เป็นบริเวณที่ใช้ต้อนรับแขกส่วนแรก โดยบ้านญี่ปุ่นจะแบ่งพื้นที่สำหรับถอด-สวมรองเท้าออกจากพื้นที่ข้างในบ้านชัดเจน มีตู้วางรองเท้าพร้อมรองเท้าสลีปเปอร์สำหรับใส่เดินในบ้านวางไว้อยู่ที่บริเวณนี้
6.เฟอร์นิเจอร์สไตล์ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศขนาดเล็ก ที่อยู่อาศัยจึงมีพื้นที่น้อย เฟอร์นิเจอร์จึงต้องตอบโจทย์การประหยัดพื้นที่ใช้สอย ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงเตี้ยหรือติดพื้น เพราะสะดวกต่อการเก็บ ส่วนบ้านทรงโมเดิร์นจะนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Purpose ที่มีความสวยงามทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายในตัวเดียว
7.เน้นความเรียบง่าย
การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นยุคใหม่เป็นสไตล์ Minimal ที่เน้นความเรียบง่าย ดูสะอาดตา เล่นกับสีไม่เยอะ หลักๆ คือ สีขาว สีน้ำตาลจากไม้ธรรมชาติ ใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งไม่ต้องมาก แต่ดูเนี้ยบ วางเป็นสัดส่วนดูพอดี ซึ่งทำให้พื้นที่ดูกว้าง โปร่งโล่ง และเป็นระเบียบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน
8.พื้นที่เปิดโล่งและแสงจากธรรมชาติคือหัวใจหลักของบ้านญี่ปุ่นยุคใหม่
การให้แสงธรรมชาติสาดเข้ามาในบ้าน โดยเฉพาะบ้านญี่ปุ่นสไตล์ Minimal จะทำให้บ้านดูสว่าง สะอาดตา และโปร่งมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ติดกระจกที่มีความใสและสูงหรือติดกระจกใสไว้บนเพดานแบบ skylights ก็จะยิ่งมีแสงผ่านเข้ามาได้มากขึ้น แต่ก็อย่าปล่อยให้สวนด้านนอกรกหรือเอาต้นไม้มาบังหน้ากระจกล่ะ นอกจากจะทำให้แสงผ่านเข้ามาได้น้อยแล้ว ยังทำให้บ้านดูหมองลงไปอีกด้วย
9.สีที่นิยมใช้ในการแต่งบ้าน
ด้วยเพราะชาวญี่ปุ่นชอบความเป็นธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติมอะไรมาก สีที่นิยมจึงมักเป็นสีธรรมชาติของไม้แบบทะมึนๆ ดั่งที่พบเจอได้ในบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมหรือเรียวกัง ส่วนบ้านทรงโมเดิร์นในปัจจุบัน ก็ยังคงนิยมสีธรรมชาติของไม้เช่นเดิม ต่างกันตรงที่เน้นสีดูสว่างมากขึ้น หลายหลังเน้นสีขาวเพื่อให้บ้านดูกว้าง แซมด้วยสีเขียวจากต้นไม้ และโทนสีเทาจากหิน
10.สร้างมุมสงบเงียบในบ้าน
ชาวญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่นำเอาความเชื่อและแนวความคิดปรัชญาตะวันออกมาปรับใช้ได้อย่างลงตัว วิถีแห่งเซนเป็นหนึ่งในนั้น ปรัชญาของเซนคือการรู้แจ้ง โดยมุ่งหวังในเรื่องของการปฎิบัติสมาธิมากกว่าคำพูด เมื่อคำพูดและความคิดปรุงแต่งหยุดลง ธรรมชาติดั้งเดิมก็ปรากฎ ในบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมจึงมีห้องอันเงียบสงบสักห้องไว้ฝึกจิตให้สงบ เช่น นั่งสมาธิ, พิธีชงชา, จัดดอกไม้ เป็นต้น ด้านในห้องจึงต้องดูเป็นธรรมชาติ เน้นตกแต่งสีแบบเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เพื่อให้สามารถฝึกทำกิจกรรมที่กล่าวมาได้อย่างสงบ