เกาะฮาจิมะ เกาะร้างขนาดเล็กในเมืองนางาซากิ ที่ปกคลุมไปด้วยคอนกรีตทั้งเกาะ มีรูปร่างคล้าย เรือรบโทสะ อดีตเรือพิฆาตแห่งกองทัพเรือญี่ปุ่น จึงมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Battleship Island และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เกาะกุนคังจิมะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 2015
บนเกาะกุนคังจิมะอุดมไปด้วยถ่านหิน ซึ่งหลังจากบริษัทมิตซูบิชิได้รับสัมปทานก็เริ่มทำเหมืองถ่านหินใต้ทะเลกันอย่างจริงจัง ผู้คนได้หลั่งไหลเข้ามาทำงานในเหมืองเพิ่มขึ้น จึงมีการสร้างตึกแถวหลายชั้นเสริมด้วยคอนกรีตขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการอยู่อาศัยของคนจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่มีการสร้างตึกเสริมคอนกรีต โดยในช่วงปลายปี 50 คือช่วงยุคทองของเกาะนี้อย่างแท้จริง มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 5,300 คน อัตราประชากรมากกว่าโตเกียวในยุคเดียวกันถึง 9 เท่าเลยทีเดียว ทว่า หลังจากความนิยมในการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป ทำให้การขุดถ่านหินก็ลดลงพร้อมๆ กับจำนวนประชากร จนกระทั่งเดือน ม.ค. ปี ค.ศ. 1974 เหมืองถ่านหินจึงได้ปิดตัวลง และในเดือน เม.ย. ปีเดียวกัน เกาะนี้ก็กลายเป็นเกาะร้างไปในที่สุด
ในปัจจุบันมีทัวร์สำหรับผู้สนใจขึ้นไปเยี่ยมชมบนเกาะกุนคังจิมะที่ยังคงสภาพเดิมไว้เหมือนเมื่อ 40 กว่าปีก่อน .ซึ่งสามารถซื้อทัวร์ของบริษัททัวร์ Gunkanjima Concierge ได้ โดยมีอดีตคนเหมืองถ่านหินที่เคยทำบนเกาะนี้เป็นไกด์ทัวร์ เขาเล่าให้ฟังว่า ในเหมืองมีแต่เสียงที่ดังจนแก้วหูจะแตก และล้อมรอบไปด้วยเหงื่อของชายฉกรรจ์ที่เปียกโชกไปทั้งตัว การลงไปทำงานในที่มืดมิดแบบนั้นทุกวันเป็นอะไรที่ขมขื่นจริงๆ ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานที่เลวร้าย แต่ก็มีรายได้ต่อปีมากกว่าข้าราชการในสมัยนั้นถึง 4 เท่า เพราะพวกเขาจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าไฟเพียง 10 เยน ในขณะที่ได้เงินเดือน 40,000 เยน ดังนั้นแต่ละครอบครัวจึงมีทีวีที่ถือว่าเป็นของราคาแพงในสมัยนั้นดูกันทุกครอบครัว
เป็นที่น่าเสียดายที่การเข้าไปในสิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ทัวร์นี้จึงเป็นเพียงการเดินชมโดยรอบจากข้างนอกและเรียนรู้สิ่งที่ไกด์อธิบายเท่านั้น แต่พอได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้แล้ว ก็รู้สึกอย่างแรงกล้าได้ว่า สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างพยายาม เพื่อนำไปสู่ยุคใหม่ที่ดีกว่าเดิมดั่งเช่นปัจจุบัน
เรื่อง : Mikawa Tadahisa
แปล : PanPan