โดนแน่ๆ หลีเป๊ะ
*หนังสือพิมพ์เกาะหลีเป๊ะ ออกวางแผง!\r\nรายงานจากเกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งแดนใต้ ณ เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมีชายหาดสามแห่งสามสไตล์\r\n“เกาะนี้กว่าจะไปถึงต้องใช้เวลาเดินทางหนึ่งวันเต็ม บนเกาะมีเพียงท้องทะเลที่ส่องแสงประกายระยิบระยับ ให้อารมณ์เหมือนได้เข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องโรบินสัน ครูโซ* เลยล่ะ” เป็นคำพูดของคนที่เคยไปเกาะนี้มาพูดให้ได้ยินเมื่อ 5 ปีก่อน ได้ยินแล้วก็นึกอยากไปที่เกาะนี้มาโดยตลอด\r\nเกาะหลีเป๊ะอยู่ทางตอนใต้ ใกล้ๆ ชายแดนมาเลเซีย แม้ว่าจะอยู่ในประเทศไทย แต่ไม่รู้ทำไมฉันกลับรู้สึกว่ามันอยู่ไกลซะยิ่งกว่าเกาะมัลดีฟส์ซะอีก จนในที่สุดฉันก็มีโอกาสได้ไปเยือนเกาะนี้ เมื่อก่อนการจะไปเกาะหลีเป๊ะต้องนั่งเรือจากท่าเรือปากบารา ตำบลละงู จังหวัดสตูลนานถึง 6 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันมีสปีดโบ๊ตซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และในทริปนี้เพื่อนชาวมุสลิมซึ่งไปลงหลักปักฐานอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือก็ได้เสนอตัวมาเป็นไกด์ให้ด้วยตัวเอง ฉันจึงไม่รอช้าที่จะนั่งเครื่องบินออกจากกรุงเทพฯ ทันที
\r\n
ในที่สุดฉันก็ใกล้ถึงเกาะหลีเป๊ะแล้ว เมื่อมองเกาะหลีเป๊ะจากบนเรือ ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ แต่พอไปถึงก็ได้รู้ว่า เกาะหลีเป๊ะไม่ได้ห่างไกลความเจริญอีกต่อไปแล้ว บนเกาะมีที่พักร่วม 50 แห่ง บนถนนก็มีแสงไฟสว่างไสวและมีผู้คนคับคั่งจนถึงเที่ยงคืน บนชายหาดมีฝรั่งมานอนอาบแดดกันเต็มไปหมดจนชวนเข้าใจผิดคิดว่าที่นี่เป็นฟลอริด้าหรือไวกีกิ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เกาะหลีเป๊ะก็ยังนับว่าเป็นเกาะสวรรค์อยู่ดี ด้วยเพราะชายหาดที่ใสสะอาดจนชวนให้ตกตะลึง และถนนบนเกาะที่สามารถเดินเท้าดูได้รอบเกาะ รวมทั้งเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนบนเกาะ นอกจากนั้นก็ยังมีที่พักบางแห่งที่ไม่ยอมรับแสงสีสมัยใหม่และยังคงรักษาบรรยากาศแบบเก่าๆ เอาไว้ได้อยู่ ตัวฉันเองมีเรื่องอยากจะบอกกล่าวอยู่เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นก็เลยขอใช้โอกาสนี้ รวบรวมทั้งหมดนั้นมาเขียนเป็น “หนังสือพิมพ์เกาะหลีเป๊ะ” ลงในนิตยสารเล่มนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกาะหลีเป๊ะจะรักษาบรรยากาศอย่างตอนนี้เอาไว้ได้ตลอดไป โดยไม่มีคนนอกเกาะนำสิ่งไม่ดีเข้ามาทำลายบรรยากาศของเกาะแห่งนี้
\r\n
*Robinson Crusoe เป็นนิยายแต่งโดยแดเนียล เดโฟ เนื้อหาของเรื่องเกี่ยวกับคนที่ไปติดอยู่บนเกาะร้าง
\r\n
ณะ
