Blooming Day ตอน ร้อนแรกที่ อิวาเตะ
岩手で過ごす初夏
ขณะที่ฉันกำลังเล่าเรื่องราวฤดูร้อนแรกที่ญี่ปุ่นนี้ ครอบครัวก็ล้อหมุนออกเดินทางไปยังเมือง Hiraizumi จ.อิวาเตะ
ไปล่องเรือท่ามกลางธรรมชาติและสัมผัสกับเสน่ห์ของฤดูร้อนที่หุบเขาเกอิบิ (Geibi Gorge) เป็นครั้งแรก
เรือจะล่องไปตามลำน้ำที่ใสสะอาดสามารถเห็นหมู่มวลปลาคาร์พแหวกว่ายไปมา โดยมีคนพายที่หัวเรือและท้ายเรือ
ระหว่างทางพวกเขาจะอธิบายข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น แนะนำจุดที่ควรชม 15 จุด และหนึ่งในนั้นมีศาลเจ้าที่อยู่บริเวณปากถ้ำ
สามารถโยนเหรียญขอพรจากบนเรือได้ด้วย
หลังจากที่เผชิญกับอากาศหนาวเป็นเวลายาวนาน ในที่สุดลมร้อนได้พัดผ่านหน้าต่างที่ห้อยกระดิ่งลมที่เพ้นท์รูปปลาทอง ดอกมอร์นิ่งกลอรี่ และดอกทานตะวันสัญลักษณ์ของฤดูร้อนดังกุ๊งกิ๊งๆ ก็มาถึง หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมฤดูร้อนต้องคู่กับกระดิ่งลมใช่ไหมคะ คนญี่ปุ่นเองเขามีงานวิจัยออกมาว่าเวลาที่เราได้ยินเสียงกระดิ่งลมนี้ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกาย
ลดลงได้ น่าจะนำจะมาห้อยตามหน้าต่างที่เมืองไทยบ้างเหมือนกันเนอะ
วันหนึ่งตอนที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ลูกสะใภ้ในร้านดอกไม้อย่างฉัน ได้พาสมาชิกใหม่เป็นสุนัขญี่ปุ่นพันธุ์ชิบะ
“น้องโซระมาเมะ” ออกเดินเล่นชมดอกไม้ริมทาง พร้อมฟังมินิคอนเสิร์ตจากจักจั่นและกบในท้องนา จู่ๆ ทำไมเหมือน
เห็นดอกไม้เรืองแสงได้อยู่สุดถนน ไม่รอช้าก็ย่ำเท้าถี่ๆ เข้าไปดู พบว่าแสงนั้นมาจากหิ่งห้อยที่อยู่ในดอกกระดิ่งลมนั่นเอง
นอกจากจะเป็นเรือนให้หิ่งห้อยแล้ว ดอกกระดิ่งลมนั้นมีความหมายอันลึกซึ้งว่า สู่ความสงบ อีกด้วย
ตอนแรกฉันคิดว่าแค่ล่องเรือไปกลับ แต่ที่ไหนได้ เมื่อเราเข้าไปท่ามกลางหุบเขาได้ประมาณ 1 กม.แล้วนั้น ก็มีจุดจอดเรือให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำ นั่นคือ กิจกรรมลูกบอลแห่งโชคลาภความฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่? เราเลือกลูกบอลตามความหมายที่ต้องการ แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานโยนให้ลงหลุมของหน้าผาฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ แล้วสิ่งที่ขอจะเป็นจริง ขากลับนายเรือจะร้องเพลงพื้นบ้านประจำท้องถิ่นดังสะท้อนกึกก้องในหุบเขา ถือเป็นช่วงเวลา 90 นาทีที่คุ้มค่ามาก
ล่องเรือเสร็จชักหิวแล้ว เราพากันไปกินอาหารประเภทเส้นดับร้อน ตัวแทนของอิวาเตะกัน นั่นคือ หมี่เย็นโมริโอกะเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากเกาหลีเหนือ มีความคล้ายคลึงกับบะหมี่เย็นของญี่ปุ่น แต่จะมีรสชาติที่เฉพาะตัว ด้วยรสชาติของกิมจิ และสิ่งที่พิเศษสุดสำหรับเมนูนี้คือจะมีเนื้อวากิวที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มของเมืองโมริโอกะเสิร์ฟมาคู่กันเสมอ ส่วนผลไม้จะถูกปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล ถ้าเป็นฤดูร้อนก็มักจะเป็นแตงโมค่ะ เรากินอาหารคาวแล้วก็ต้องกินของหวานต่อ ฉันเป็นคนนึงที่ชอบกินซอฟท์ครีมมาก ที่นี่มีซอฟท์ครีมถั่วแระบด ซึ่งเป็นไอศกรีมขึ้นชื่อของแถบภูมิภาคโทโฮคุ รสชาติอร่อยใช้ได้เลยเหมือนกัน
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบางส่วนในฤดูร้อนแรก ของการเป็นลูกสะใภ้ร้านดอกไม้ที่อิวาเตะของฉันค่ะ แต่จะมีอีกความทรงจำที่จะคงอยู่สำหรับหน้าร้อนนี้ ก็คงเป็นเรื่องงานแต่งงานในแบบฉบับญี่ปุ่นของฉันที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ แค่อยู่ในช่วงการเตรียมงาน ก็รู้สึกมึนงงในวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย แล้วพอวันงานมาถึงจริงๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ฝากติดตามอ่านในฉบับหน้าด้วยนะคะ