ชมเทศกาลโมริโอกะซันสะโอโดริซึ่งได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คที่อิวาเตะ
และทานาบาตะอีกหนึ่งเทศกาลใหญ่ที่มิยางิ แวะกินเรเมนคลายร้อน
summer in tohoku
อิวาเตะ (IWATE)
เทศกาลที่ได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊ค “Morioka Sansa Odori”
เมเม่สาวแสนสวยประจำแก๊งค์ซ่าเกิดติดใจพาเหรดแห่งอิวาเตะที่มีสาว ๆ ในชุดสีสดใสรวมตัวกันเป็นขบวนยาวตามถนน และยังมีเสียงกลองที่กังวานเข้าไปในร่างตอนเสียบหูฟัง พอข้อมูลบอกว่าเป็นกลองไทโกะที่ได้บันทึกลงกินเนสบุ๊ค ก็ยิ่งส่งความอยากดูขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ จนต้องเอามาเสนอใส่ในแผนเดินทาง
เทศกาลโมริโอกะซันสะโอโดริเป็นขบวนพาเหรดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพลงและการเต้นรำเป็นการเฉลิมฉลองของผู้คนที่ได้รับการปลดปล่อยจากปีศาจที่คอยสร้างความหวาดกลัวในสมัยโบราณ นับเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของโทโฮคุและเทศกาลใหญ่ที่สุดของอิวาเตะ
ในช่วงวันสุดท้ายก่อนปิดงานจะมีการจัดขบวนพาเหรดซึ่งได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็น “ขบวนพาเหรดกลองไทโกะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” มีเหล่านักเต้นและนักตีกลองไทโกะจำนวนกว่า 10,000 คน เสียงกลองไทโกะดังขึ้นมานั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้เต้นรำสนุกสนาน แต่ยังกังวานเข้าไปในร่างกายเมื่อได้ฟังอีกด้วย
การแสดงชุดระบำมิสซันซะหรือมิสซันสะโอโดริ จะนำหน้าขบวนพาเหรดทั้งหมดที่มีประมาณหนึ่งหมื่นคน สาว ๆ ในชุดหลากสีสันสดใสสร้างความสดชื่นในขบวนที่ผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอด 3 เดือนก่อนเริ่มงาน จะเต้นรำในขบวนพาเหรดตามจังหวะเสียงของนักตีกลองไทโกะ นักเป่าขลุ่ยไม้ และเสียงโห่ร้องของผู้ชม ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของสามคืนแรกและชั่วโมงสุดท้ายของคืนที่สี่จะเชิญชวนให้ผู้ชมมาเต้นรำเป็นวงกลมด้วยกัน ในงานจะมีสต๊าฟที่คาดสายสะพายสีเหลืองซึ่งจะคอยเป็นคุณครูช่วยสอนวิธีร่ายรำสำหรับมือใหม่ให้เต้นได้อย่างสนุกสนาน
ช่วงเทศกาล : วันที่ 1 – 4 สิงหาคม ของทุกปี เวลา 18.00 – 21.00 น (ขบวนแห่)
การเดินทาง : บริเวณจัดเทศกาลคือถนนสายหลัก อำเภอโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ (ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด) โดยเดินประมาณ 20 นาทีจากสถานี JR โมริโอกะ
.รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1003782.html
พากินโมริโอกะ เรเมน (Morioka Reimen)
แจนนี่มาพร้อมกับรูปเรเมนใส่แตงโม ฉันอยากกิน! แจนนี่เสียงเด็ดเดี่ยว แล้วอรรถาธิบายว่าเป็นอาหารยอดนิยมนะจ๊ะเพื่อนจ๋า นำเข้าจากเกาหลีมีกิมจิด้วยแต่ไปโด่งดังที่ญี่ปุ่นนู่น แต่ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่โดนใจ แจนนี่ก็มีทางเลือกให้ด้วยกับเมนู
โมริโอกะจาจาเมนที่เป็นอาหารยอดนิยมเหมือนกัน
เรเมนถูกนำเข้ามายังเมืองโมริโอกะเป็นครั้งแรกโดยคุณเทรุโตะ อาโอกิ ชาวเมืองฮัมฮุงในเกาหลีเหนือ เขาอพยพมาที่เมืองโมริโอกะและเปิดร้านอาหาร Shokudoen โดยปรุงบะหมี่เย็นเปียงยางที่รู้จักในญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วยการผสมกิมจิในน้ำซุปจึงกลายเป็นรสชาติใหม่ที่ถูกใจคนกินตั้งแต่นั้นมา
ปัจจุบันโมริโอกะเรเมนหากินได้ง่ายเพราะกลายเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงระดับประเทศไปแล้ว มีเส้นสีขาวที่เหนียวนุ่มลื่นคอเพราะทำจากข้าวสาลีและแป้งมันฝรั่ง เสิร์ฟมาแบบบะหมี่เย็นในน้ำซุปเนื้อและไก่ แล้วนำมาผสมกับกิมจิรสชาติเผ็ด และใส่ผลไม้ประจำฤดูมาด้วย เช่น แตงโม ฯลฯ
ส่วนโมริโอกะจาจาเมนเป็นบะหมี่เส้นแบนอุ่นราดด้วยซอสมิโซะสูตรพิเศษ แตงกวา และขิงขูดคลุกเคล้าก่อนกินหรือเติมน้ำมันพริกตามชอบ บางร้านบริการไข่ไก่และน้ำร้อนเอาไว้ผสมกับเครื่องปรุงและเส้นที่เหลือติดชามไว้นิดหน่อย ก็จะได้กินซุปไข่
ชิตันตันแสนอร่อยเพิ่มอีกด้วย
สถานที่ : ร้านอาหารทั่วไป
*รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1003794.html
–รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1004470.html
มิยางิ (MIYAGI)
ขอพรจากดวงดาวที่งานเซนได ทานาบาตะ มัตสึริ (Sendai Tanabata Festival)
หลังจากที่นะนุ่นปริ่มใจที่เพื่อน ๆ อนุมัติงานเนบุตะ มัตสึริที่ยิ่งไหญ่ไปก่อนหน้าแล้ว ก็บอกว่าอยากจะชมเทศกาลเซนได
ทานาบาตะที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันอีกงาน งานนี้มีฉายาว่าเทศกาลแห่งดาวที่จัดทั่วประเทศในวันที่ 7 เดือน 7 วันที่ดาวสองดวงโคจรมาเจอกัน… อูย~ โรแมนติกจัง งานใหญ่ขนาดมีคนโคจรมาในงานนี้ถึงปีละสองล้านคนแน่ะ
งานเทศกาลทานาบาตะที่เมืองเซนไดจัดขึ้นในวันที่ 6 เดือนสิงหาคม เป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ ทั่วทั้งย่านดาวน์ทาวน์ในเซนไดถูกประดับด้วยสายรุ้งทานาบาตะหลากสีสวยงามที่แขวนห้อยระย้ายาว 3 – 5 เมตร เป็นงานแฮนด์เมดของคนในชุมชนที่ทำจากกระดาษวาชิและไม้ไผ่
กระดาษวาชิ (Washi Paper) คือ กระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิมจากต้น Kozo หรือ Mulberry มีความยืดหยุ่นและทนทาน ใช้ทำร่ม โคมไฟ ประตู และยังเหมาะกับการใช้เก็บรักษาเอกสารเก่าในพิพิธภัณฑ์หรือห้องสมุด คุณทาคาโอะ มาคิโนะเล่าว่าเขายังใช้กระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิมนี้ในการอนุรักษ์รูปปั้นเก่าแก่ในวัดเซนโซจิด้วย
งานตกแต่งทานาบาตะมีการเตรียมล่วงหน้าหลายเดือนก่อนวันงานและจะเก็บไว้เป็นความลับจนถึงเช้าวันที่ 6 สิงหาคมจึงจะเริ่มประดับตกแต่ง ทานาบาตะของใครสวยงามที่สุดก็จะถูกประกาศในช่วงบ่ายและจะได้รับรางวัลติดไว้ที่ปลายเสาประดับ ในงานมีการเอาคำอธิษฐานและของประดับไปติดไว้เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาว จะใช้กระดาษทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีฟ้า แดง เหลือง ขาว และดำหรือม่วง ส่วนของประดับทำด้วยกระดาษ เช่น นกกระเรียนเพื่อขอให้อายุยืนยาว กระเป๋าเงินเพื่อขอให้ร่ำรวย
เทศกาลเซนได ทานาบาตะ มีประวัติศาสตร์ของเทศกาลที่ยาวนานกว่า 400 ปี และมีของตกแต่งทานาบาตะที่หรูหราถือเป็นที่สุดของญี่ปุ่น มีการชมดอกไม้ไฟในวันที่ 5 สิงหาคม มีกิจกรรมบนเวที และยังมีของอร่อยขึ้นชื่อตามซุ้มขายอาหารอีกด้วย
ช่วงเทศกาล : วันที่ 6- 8 สิงหาคม ของทุกปี
การเดินทาง : บริเวณจัดเทศกาลคือพื้นที่ใจกลางเมืองของเซนไดและย่านช้อปปิ้งใกล้เคียง
-รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1004723.html
อยากมีน้องสาวหน้าเด็กโคเคชิ ต้องไป “Yajiro Kokeshi Village”
สาวแก้มใสคนนี้ชื่อแก้มใส เธอยกมือขอไปทำงานฝีมือตุ๊กตาโคเคชิที่ Yajiro Kokeshi Village แก้มใสบอกว่าเคยได้รับของเล่นเป็นตุ๊กตาโคเคชิจากเพื่อนคุณแม่ตอนที่ยังเด็กอยู่และเก็บไว้จนถึงทุกวันนี้ด้วยประทับใจกับใบหน้าที่เหมือนเด็กเล็ก ๆ พอโตขึ้นได้อ่านเจอข้อมูลว่าต้นกำเนิดของตุ๊กตาโคเคชิอยู่ที่โทโฮคุ จึงอยากจะไปที่นี่สักครั้งหนึ่ง ชาวแก๊งค์ได้ฟังเหตุผลแล้วก็มิอาจปฏิเสธการอยากไปเติมฝันวัยเด็กของแก้มใสได้
หมู่บ้านตุ๊กตายาจิโระ โคเคชิเป็นหนึ่งในสถานที่กำเนิดตุ๊กตาโคเคชิและยังมีชื่อเสียงเรื่องตุ๊กตาโคเคชิด้วย ช่างฝีมือที่นี่ได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขันตุ๊กตาโคเคชิแห่งชาติญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทุกปีที่เมืองชิโรอิชิ ในงานจะได้เห็นตุ๊กตาโคเคชิจากทั่วญี่ปุ่นส่งผลงานเข้าประกวดเกือบหนึ่งพันชิ้นมีทั้งแบบดั้งเดิมไปจนถึงแบบทันสมัยและสร้างสรรค์ และยังได้ดูการสาธิตการทำตุ๊กตาโคเคชิจากช่างฝีมือระดับแนวหน้า
แก้มใสเคยอ่านเจอว่า ผู้คนมักมาแช่ออนเซ็นที่ Kamasaki Onsen ที่มีบรรยากาศอบอุ่นแบบชาวบ้านและยังมีชื่อเสียงในการสมานแผลที่ผิวหนัง ซึ่งหมู่บ้านยาจิโระอยู่ใกล้กับที่นี่จึงได้นำตุ๊กตาโคเคชิไปวางตกแต่งตามที่ต่าง ๆ ในออนเซ็นเพื่อให้ผู้คนได้พบเห็นและซื้อติดมือกลับไป
งานแฮนด์เมดที่มีใบหน้าน่ารักและอ่อนโยนนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของช่างที่เป็นเพียงชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมมาตลอดช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง แล้วใช้เวลาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาวเพื่อทำตุ๊กตาโคเคชิ
บริเวณ Yajiro Kokeshi Village มีห้องจัดแสดงภาพและคำอธิบายประวัติของตุ๊กตาโคเคชิ มีร้านค้าและมีเวิร์คช็อปตุ๊กตาโคเคชิให้ทำด้วย จะทำเวิร์คช็อปโคเคชิด้วยตัวเองหรือจะซื้อก็ได้ ตุ๊กตายาจิโระโคเคชิมีเส้นวง ๆ เป็นจุดเด่นทำให้เหมือนตุ๊กตาใส่หมวกแบเร่ต์ สีสดใสที่ส่วนท้อง
ปัจจุบันตุ๊กตาโคเคชิกลายเป็นของประดับตกแต่งหรือเป็นของสะสมมากกว่าที่จะเป็นของเล่นสำหรับเด็ก ๆ แล้ว
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่หากต้องการมีประสบการณ์วาดโคเคชิ 700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น. (เมษายน – ตุลาคม) 09.00 – 16.00 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม) หยุดทุกวันพุธ (หากตรงกับวันนักขัตฤกษ์จะปิดทำการในวันถัดไป)
วันปิดทำการ : วันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
การเดินทาง : ประมาณ 15 นาที โดยรถยนต์จากทางด่วน Tohoku “Shiroishi IC”
–รูปประกอบ : www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1004557.html
**สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ อาจถูกยกเลิก เลื่อนวัน-เวลา หรือปิดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบของการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ดังนั้นโปรดตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทางท่องเที่ยว**
เรื่องโดย Data & Communique Express Co., Ltd.
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทโฮคุคลิกที่นี่!
“แก๊งค์ซ่าป่วนซัมเมอร์ที่โทโฮคุ ตอนที่ 1” คลิก