Special interview with CGM48
“มะลิ” เพลงออริจินัลที่ผสมผสานความเป็นไทยล้านนากับดนตรีแนว J-Rock
มะลิกลิ่นละมุน กรุ่นในอก มีใครมีมะลิเป็นดอกไม้ในดวงใจหรือเปล่านะ ? ลองไปฟังเพลง “มะลิ” กันดูสักครั้ง แล้วดอกไม้ในดวงใจของคุณอาจกลายเป็นดอกมะลิโดยไม่รู้ตัว
บทเพลงนี้น้อง ๆ จากวง CGM48 ทั้ง 16 คน ได้แก่ เซ็นเตอร์ – คนิ้ง, อิซึรินะ, ออม, สิตา, ปิ๊ง, มามิ้งค์, ฟอร์จูน, พิม, ปีโป้, นีนี่, แองเจิ้ล, มิลค์, นีน่า, พั้นซ์, เจย์ดา และแชมพู มาร่วมถ่ายทอด ซึ่งปกติแล้ววง48 ของบ้านเรา มักจะเอาเพลงของรุ่นพี่วง 48 จากญี่ปุ่นมาดัดแปลงเป็นเพลงไทย หลายคนเลยอาจคุ้นทำนองและร้องตามได้อย่างง่าย ๆ พอมีข่าวว่าจะมีเพลงออริจินัลขึ้นมา ก็ทำเอาแฟน ๆ อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้และเฝ้ารอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อถึงเวลาที่ MV ปรากฏ ขอบอกเลยว่าเกินคาด!
เพราะมะลิ เป็นเพลงสบาย ๆ ที่มีเนื้อหาที่ดี (มากก) มาพร้อมกับเสียงดนตรีที่มีกลิ่นอายไทยล้านนา ผสมกับสไตล์ J-Rock/J-Pop จนเข้าที่ ออกมาเป็นเพลงรวมของสองเชื้อชาติได้อย่างกลมกล่อม ไม่ว่าชาติไทย ญี่ปุ่น หรือชาติไหน รับรองว่าถูกใจแน่ ๆ นอกจากเสียงเพลง เสียงร้อง ทำนองอันโดดเด่นแล้ว มิวสิควีดีโอยังน่าชื่นชม เพราะอัดแน่นด้วยวัฒนธรรมทางภาคเหนือของไทย พาเราไปเปิดหูเปิดตา น้อมรับกลิ่นอายวัฒนธรรมที่กรุ่นกลิ่นหอมสมชื่อ “มะลิ”
วันนี้ดาโกะมีโอกาสได้สัมภาษณ์น้อง ๆ วง CGM48 ทั้งเซ็นเตอร์ – คนิ้ง, กัปตันวง – ออม, ฟอร์จูน, มามิ้งค์, สิตา และพิม พูดคุยถึงบทเพลงสุดแสนจะน่ารักอย่างเพลง “มะลิ” พร้อมเบื้องหลังเพลงนี้อีกหลากหลายแง่มุม จะหอมกรุ่นขนาดไหน ไปตามอ่านกันเลย!
“มะลิ” ถือเป็นเพลงออริจินัลเพลงแรกของวง รู้สึกอย่างไรบ้าง มีอะไรที่แตกต่างไปจากการร้องเพลงของวงรุ่นพี่มั้ย แล้วความรู้สึกตอนที่ได้ซ้อมร้องและเต้นเพลงออริจินัลครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
คนิ้ง : รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลยที่ได้มีเพลงออริจินัลค่ะ ถ้าเป็นเพลงของรุ่นพี่ บางครั้งอาจจจะมีปัญหาเรื่องเสียงร้องหรือคำที่ไม่ลงตัว แต่พอเป็นเพลงออริจินัลแล้ว เราสามารถเพิ่มเติมหรือเสริมความเป็นตัวเองและความเป็นไทยเข้าไปได้ จังหวะก็ฟังง่ายขึ้นสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยด้วยค่ะ หวังว่าชาวต่างชาติจะชอบเพลงนี้ด้วยเช่นกันนะคะ ส่วนความแตกต่างระหว่างเพลงออริจินัลและเพลงของวงรุ่นพี่นั้นไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกันมากค่ะ เพราะยังคงสไตล์ความเป็นไอดอลญี่ปุ่นอยู่ เพียงแต่มีการแทรกความเป็นวัฒนธรรมไทยในเรื่องทำนอง ดนตรีต่าง ๆ เข้าไปค่ะ ส่วนเรื่องซ้อมเต้นกับร้อง ถ้าเป็นซ้อมเต้น ครูชาวญี่ปุ่นจะส่งคลิปมาให้เราดูก่อนว่าท่าเป็นอย่างไร พอได้เรียนแล้วรู้สึกสนุกมากค่ะ เพราะท่าเต้นต่าง ๆ มีความลงตัวและมีความหมายในตัวของมันเองค่ะ
คนิ้ง – วิทิตา สระศรีสม
คิดว่าในมุมมองของคนไทย “ดอกมะลิ” มีความหมายอย่างไรต่อคนไทย คล้ายดอกซากุระที่ถือเป็นดอกไม้ป๊อปปูล่ามากที่สุดในกลุ่มคนญี่ปุ่นหรือเปล่านะ
ฟอร์จูน : ในมุมมองคนไทยดอกมะลิเปรียบเหมือนตัวแทนในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันแม่ วันพระ ที่จะร้อยเป็นพวงมาลัย แสดงถึงความกตัญญูเสียมากกว่า อาจจะไม่ใช่ดอกไม้ที่คนทั่วไปนึกถึง หรือป๊อปปูล่าเท่าดอกซากุระของประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อเรานำดอกมะลิมาแทนในเพลง มุมมองเวลามองดอกมะลิก็เปลี่ยนไป เรามองว่าดอกมะลิเปรียบเสมือนพวกเรา มันอาจจะเป็นดอกไม้ธรรมดา ๆ ที่คนไทยไม่ได้นึกถึงมันมากนัก แต่พอเรามาอยู่ด้วยกัน จับมาเรียงร้อยเป็นพวงมาลัยที่สวยงาม เหมือนกับพวกเรา CGM48 ที่ต้องอยู่ด้วยกัน พยายามซ้อม พยายามเต้น จนกว่าจะออกมาเป็นผลงานเพลงมะลิที่ดีที่สุดค่ะ
ในเอ็มวีจะสามารถเห็นวิถีชีวิตแบบไทยๆ ได้ด้วย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นวัฒนธรรมไทยที่อยากจะถ่ายทอดให้แฟนๆ ต่างชาติ เช่น แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นได้รับรู้ด้วยใช่หรือเปล่า
สิตา : ใช่ค่ะ อย่างในเอ็มวีจะมีซีนชุดนักเรียนของทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่โรงเรียนกำหนดวันให้นักเรียนสวมใส่ชุดพื้นเมืองไปโรงเรียนด้วย จริง ๆ คนญี่ปุ่นน่าจะคุ้นเคยกับชุดยูนิฟอร์มกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าได้เห็นชุดพี่รินะก็น่าจะตื่นเต้นมาก ๆ เหมือนพวกเราค่ะ เพราะข้างบนเป็นยูกาตะ ส่วนข้างล่างเป็นผ้าซิ่น เป็นชุดที่เข้ากันได้ดีมาก ๆ ถือเป็นการรวมวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศไว้ได้อย่างลงตัวและสวยงามมากค่ะ
ออม – ปุณยวีร์ จึงเจริญ
ชอบซีนไหนในเอ็มวีมะลิมากที่สุด ชุดที่ใส่แสดงภายในเอ็มวี มีความหมายอะไรซ่อนไว้ด้วยไหม และท่ารำ ฝึกนานหรือเปล่า มีความหมายแอบแฝงไหม
มามิ้งค์ : ชอบซีนที่รวมกันแสดงรำมากที่สุดค่ะ จะมีรำฟ้อนเล็บ รำขันดอก กิ่งกะลา และกลองสะบัดชัย เป็นซีนที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ การร่ายรำมีความอ่อนช้อยมาก ชุดที่ใส่ภายในเอ็มวีคือชุดไทยแบบไทยล้านนา ส่วนความหมายคือเราตั้งใจจะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยล้านนาเอาไว้ รู้สึกภาคภูมิใจที่แม้เป็นเด็กรุ่นใหม่แต่ก็ได้ใส่ชุดไทย ได้นำความเป็นไทย วัฒนธรรมไทยล้านนามาอนุรักษ์ ดีใจที่ได้ใส่ชุดแบบนี้ค่ะ ถึงแม้จะไม่ค่อยมีโอกาสได้ใส่เท่าไรห ส่วนท่ารำ พวกเรามีครูสอนรำมาฝึกสอนด้วยค่ะ แม้จะมีระยะเวลาซ้อมแค่ 1 วัน แต่พวกเราก็ตั้งใจกันมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ท้าทายเลยล่ะค่ะ เพราะบางคนก็มีพื้นฐาน และบางคนก็ไม่มีค่ะ
อะไรที่ยากที่สุดสำหรับเพลงมะลิ แล้วสามารถข้ามผ่านมันมาได้อย่างไร
ออม : คิดว่าเพลงนี้ค่อนข้าวยากตรงที่เป็นเพลงออริจินัล เลยรู้สึกกดดัน เพราะมีความตั้งใจที่อยากทำมันออกมาให้ดีมาก ๆ แต่ถ้าถามว่าอะไรยากที่สุด น่าจะเป็นท่าเต้นค่ะ เพราะท่าเต้นของพวกเราในเพลงนี้ มีการผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและไทย ผสานกันออกมาเป็นท่าเต้นที่สวยงาม ยากเพราะต้องซ้อม เช่น การฟ้อนก็ต้อนนำมาประยุกต์ โดยที่ยังคงความอ่อนช้อยและงดงาม เมมเบอร์แต่ละคนจะตื่นเต้นมากเวลาซ้อม เลยคิดว่านี่แหละเป็นความท้าทายที่ยากมาก ๆ เลยค่ะ
ฟอร์จูน – ปัณฑิตา คูณทวี
เวลาที่รู้สึกเหนื่อย กดดัน หรือท้อ มีวิธีเชียร์อัพหรือให้กำลังใจตัวเองอย่างไร
พิม : หากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองมีความสุข หาของอร่อย ๆ กิน และฟังเพลงค่ะ หรือถ้าอยากปรึกษาใครก็จะเดินไปหาเมมเบอร์ พูดคุยและปรึกษากันค่ะ
เอ็มวีมียอดวิวถึง 1 ล้านภายใน 3 วัน และแตะ 3 ล้านภายในเวลาไม่กี่วัน รู้สึกอย่างไรกันบ้าง
คนิ้ง : ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ด้วยความเป็นเพลงออริจินัลแล้วด้วย เราก็คาดหวังกันอยู่ในระดับหนึ่งว่าจะมีคนชอบพวกเรามากขึ้นและเพลงเราจะดังมากขึ้นค่ะ นอกจากแฟน ๆ ของพวกเราแล้ว พวกเรายังอยากให้คนอื่น ๆ เข้ามาฟังแล้วรู้สึกสนุกสนานไปกับพวกเราด้วย และดีใจมากเลยค่ะที่มีทั้งชาวญี่ปุ่นและอีกหลากหลายชาติที่ชื่นชอบเพลงของเรา พวกเขาให้ความสนใจกับวัฒนธรรมไทยของเรา ตอนที่เห็นยอดวิว เห็นคอนเมนต์ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ
มามิ้งค์ – มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์
ถ้าย้อนถามถึงงานแถลงข่าวที่ผ่านมา การเปิดตัวเพลงใหม่ “มะลิ” ครั้งแรกต่อสายตาแฟนๆ มีอะไรที่กังวลมั้ย หลังแสดงเสร็จรู้สึกอย่างไรกับผลตอบรับ
ฟอร์จูน : ตอนนั้นกังวลเรื่องสภาพอากาศค่ะ ทั้งพวกเราและแฟนคลับที่ต้องมายืนรอพวกเราแสดงเพราะวันนั้นอากาศร้อนมาก พวกเราต้องมีการทำ quick change กันเยอะมากเลย เลยรู้สึกกังวลเรื่องร่างกาย กลัวว่าจะเหนื่อยมากเกินไป ส่วนในด้านการแสดง วันนั้นต้องโชว์ตั้งแต่เพลงแรก จำนวนเพลงเยอะมาก ๆ พวกเราได้ซ้อมในเวลาจำกัด เลยกังวลในเรื่องของท่าเต้น แต่ก็ผ่านมาด้วยดี ผลตอบรับจากแฟน ๆ นั้นก็ดูเหมือนทุกคนจะชอบนะคะ อย่างเวลาเราเต้น เราก็ได้ยินเสียงตอบรับจากแฟนคลับ เสียงเชียร์ ทำให้พวกเรามีแรงฮึดสู้ต่อ เต้นต่อ หลังจากแสดงเสร็จ เราก็ได้อ่านคอนเมนต์ของแฟนคลับด้วย รู้สึกว่ามีกระแสตอบรับที่ดีกับการได้เห็น ได้ฟังเพลงออริจินัลครั้งแรกของพวกเราที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมล้านนาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน พวกเราดีใจมากค่ะ รู้สึกคุ้มค่ากับความพยามและความเหน็ดเหนื่อย พวกเราเต็มที่มาก ๆ กับซิงเกิลนี้ค่ะ
สำหรับกิจกรรมออนไลน์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าการแสดงจะเป็นอย่างไร หรือมีอะไรพิเศษบ้าง
สิตา : งาน Asia Festival เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ สำหรับ วง48 ซึ่งพวกเรา CGM48 ได้เข้าร่วมด้วย พวกเราจะได้ขึ้นแสดงร่วมกับ 48 group วงอื่น ๆ ด้วยค่ะ งานนี้แฟน ๆ สามารถดูออนไลน์ได้ และในวันงานจะมีฟังก์ชั่นพิเศษต่าง ๆ ขณะดูก็สามารถส่งรีแอคชั่นเข้ามาได้ มีแสง สี เสียงที่รับรองว่าสนุกสมจริงแน่นอนค่ะ!
สิตา – สิตา ธีรเดชสกุล
พวกเราก็เปรียบเสมือนดอกมะลิ อาจจะเป็นดอกไม้ธรรมดา ๆ
แต่พอเราถูกเรียงร้อยเข้าด้วยกันก็กลายเป็นพวงมาลัยที่สวยงาม
อยากให้เล่าถึงคาแรกเตอร์ของแต่ละคนหน่อย ว่าแต่ละคนมีคาแรกเตอร์อย่างไร หรือมีจุดเด่นอย่างไร
คนิ้ง : คาแรกเตอร์จะเป็นสาวเสียงห้าวแต่หน้าหวานค่ะ ชอบอะไรที่มีความเป็นญี่ปุ่น ทั้งอนิเมะและอาหาร แล้วก็ชอบวาดรูปด้วยค่ะ
สิตา : ถ้าเป็นแฟน ๆ ญี่ปุ่นน่าจะคุ้นเคยกับสิตาเพราะได้เข้าร่วมงานขาวแดง และได้เป็นเซ็นเตอร์ของซิงเกิลที่ 1 และ 2 ด้วย เป็นคนที่พลังงานต่ำ แต่ตั้งใจซ้อมมาก ๆ เลยค่ะ อยากจะเก็บพลังงานไว้ตอนแสดงค่ะ
มามิ้งค์ : เป็นอีกคนที่เป็นเหมือนพี่สาวในวง ด้วยอายุด้วย แต่ก็ยังเนียนไปกับเด็ก ๆ ในวงได้ บางทีก็เรียบร้อย บางทีก็สนุกสนาน ขี้เล่น บางทีก็มีอารมณ์ศิลป์ รักธรรมชาติค่ะ
ฟอร์จูน : เป็นคนตลกค่ะ ห้าว ๆ เท่ ๆ ชอบเล่นกิจกรรมผาดโผน ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะ ชอบแมว ชอบเล่นดนตรี ร้องเพลง และเต้นค่ะ
พิม : ภายนอกดูเรียบร้อย แต่ถ้าสนิทกันแล้วจะเป็นคนเฮฮา เป็นกันเองมากค่ะ ขี้เขิน เขินง่าย เวลาว่างชอบหาของกินอร่อย ๆ กินค่ะ
ออม : เคยเป็นอดีตสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 และได้รับตำแหน่งย้ายมาเป็นกัปตนของวงนี้ ออมเป็นพี่สาวของวงค่ะ เนื่องจากอายุมากที่สุดในวง แต่ก็ตัวเล็ก เลยเนียนกับน้อง ๆ หน้าก็ยังเด็กด้วย หวังว่าเราจะได้มาเจอกันนะคะ
ในวงมีสมาชิกคนญี่ปุ่นด้วย อิซุตะซังเป็นคนอย่างไร น่ากลัวหรือเปล่า แล้วอิซุตะซังสอนอะไรบ้าง เห็นเธอพูดไทยได้มากขึ้นแล้ว สมาชิกในวงคิดว่าภาษาไทยของเธอพัฒนาขึ้นเยอะไหม
พิม : พี่รินะเป็นคนไม่น่ากลัวเลยค่ะ ใจดี แต่ก็จะมีที่แอบโหดนิดหนึ่งเวลาพวกหนูซ้อมหรือเต้นไม่ได้ หรือทำเสียงดังไปหน่อย พี่รินะก็จะสอนพวกท่าเต้น ไลน์เต้นที่พวกเราไม่สามารถทำได้ สอนต่อท่าเต้นด้วย ภาษาไทยของพี่รินะพัฒนาขึ้นเยอะมาก ๆ เดี๋ยวนี้พี่รินะสามารถพูดภาษาเหนือได้นิดหนึ่งด้วยแล้ว รู้สึก ว้าววว มาก ๆ ค่ะ
พิม – พรวารินทร์ วงศ์ตระกูลกิจ
อยากให้สอนอู้กำเมือง ภาษาเหนือที่น่าสนใจทั้งสำหรับแฟนๆ ชาวไทยและชาวญี่ปุ่นหน่อย
สิตา : คำที่ค่อนข้างจะฮ็อตฮิตในหมู่ CGM48 ได้มาจากพี่รินะค่ะ พี่รินะพูดบ่อย ๆ คือคำว่า “แหมเมาะ” แปลว่า อีกหนึ่งรอบ, อีกแล้วเหรอ หรืออีกรอบหนึ่งนะ ใช้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ก็ได้นะคะ หรือเอาไปพูดกับพี่รินะก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)
เนื่องจากบทสัมภาษณ์จะลงในดาโกะฉบับภาษาญี่ปุ่น เดือนมิถุนายนด้วย อยากให้สมาชิกแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ที่เหมาะจะไปเที่ยวช่วงเดือนมิถุนายนหน่อย
มามิ้งค์ : อยากแนะนำสถานที่ที่เราใช้ถ่ายทำเอ็มวีของพวกเรา “หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่” ค่ะ ภายในจะมีการจัดนิทรรศการ งานศิลปะ และมีประวัติเมืองเชียงใหม่ มีอะไรให้ชมกัน เป็นอีกสถานที่ที่น่าไปเที่ยว บริเวณรอบ ๆ ก็จะมีวัดต่าง ๆ ด้วย ไปเดินชม ไปไหว้พระกันได้ ส่วนตอนกลางคืนจะมีถนนคนเดินด้วย อยากแนะนำให้มากันนะคะ
ผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้ว คิดว่าตอนนี้ CGM48 ได้เติบโตขึ้นในด้านใดบ้าง
ออม : วงของพวกเราเติบโตในทุก ๆ ด้านไปพร้อม ๆ กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมมเบอร์ ศักยภาพของเมมเบอร์ ทั้งด้านการร้อง การเต้น การใช้ชีวิตในการเป็นไอดอล รู้สึกว่าทุกคนเรียนรู้และเติบโตขึ้น รู้จักระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ด้านศักยภาพของวงก็รู้สึกว่าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น มาถึงซิงเกิลที่ 3 แล้ว จำนวนแฟนคลับที่มาให้กำลังใจพวกเราก็เพิ่มมากขึ้น มากกว่าช่วงแรก ๆ ที่เปิดตัว ออมอยากให้วงของเราเติบโตขึ้นไปแบบนี้ พัฒนาไปพร้อม ๆ กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อ ๆ ไปค่ะ
อย่างไรก็ฝาก “CGM48” และเพลงสุดแสนไพเราะอย่าง “มะลิ” ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
ติดตามและเป็นกำลังใจให้ CGM48 ได้ทาง
Website : https://cgm48official.com
Facebook : www.facebook.com/cgm48official
Twitter : https://twitter.com/cgm48official
Instagram : www.instagram.com/cgm48official
YouTube : www.youtube.com/c/CGM48official
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : Btbellefille
“Special interview with Warota People – BNK48” คลิก